เทคนิคดู “หุ้นธนาคาร” (คู่มือเริ่มต้นลงทุน) แถมเช็ก P/BV หุ้นธนาคารใครถูก-ใครแพง
หุ้นธนาคาร ตัวไหนดี 2564 ? มีอะไรบ้างที่ต้องรู้ก่อนซื้อหุ้นแบงก์ เปรียบเทียบหุ้นธนาคาร ตัวไหนถูก ตัวไหนแพง
ธนาคารถือเป็นหุ้นพิมพ์นิยมของนักลงทุนไทยก็ว่าได้ แถมยังเป็นหุ้นสามัญประจำพอร์ตของกองทุนส่วนใหญ่อีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจในหุ้นธนาคาร แต่ยังจับต้นปลายไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มวิเคราะห์จากตรงไหนดี วันนี้ FinSpace ได้สรุปเป็นคู่มือง่ายๆ มาฝากกัน
ธรรมชาติของหุ้นธนาคาร เป็นยังไง ?
หุ้นแต่ละกลุ่มมักจะมีคาแรกเตอร์แตกต่างกันไป ซึ่งหุ้นธนาคารก็นับว่าเป็นกลุ่มที่มีลักษณะเฉพาะตัวชัดเจน ดังนี้
1. เป็นหุ้นวัฏจักร
ทิศทางการเติบโตของธนาคารจะขึ้นลงตามวงจรเศรษฐกิจของประเทศ หรือ Cyclical Industry เพราะรายได้หลักขึ้นอยู่การเติบโตของยอดสินเชื่อและค่าธรรมเนียม ซึ่งก็มาจากเงินในกระเป๋าผู้ประกอบการและคนในประเทศ การเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากในการวิเคราะห์หุ้นกลุ่มนี้
2. ธุรกิจมั่นคง สถานะการเงินแข็งแกร่ง
ธนาคารขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องฐานะทางการเงินที่มั่นคง และโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแรง ซึ่งหุ้นธนาคารในไทยส่วนใหญ่ล้วนแต่มีมูลค่าหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ (Big Cap) คือเกิน 50,000 ล้านบาท โดยมีบางตัวเท่านั้นที่เป็น Mid Cap
3. จ่ายปันผลสม่ำเสมอ
ถ้าลองกางสถิติย้อนหลัง จะเห็นว่าหุ้นธนาคารเป็นกลุ่มที่สามารถจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ ซึ่งรอบงบปี 2563 ธนาคารพาณิชย์จ่ายเงินปันผล รวมกันเป็นมูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราเฉลี่ย 3-4% แม้ว่าจะยังมีการกำหนดให้จ่ายปันผลไม่เกินปี 2562 และไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิในปี 2563 ก็ตาม
4. หุ้นสภาพคล่องสูง ซื้อง่ายขายคล่อง
หุ้นธนาคารเป็นกลุ่มที่ใครๆ ก็รู้จัก และเป็นหุ้นขาประจำของกองทุนรวม จึงมีจุดเด่นในเรื่องสภาพคล่องซื้อขายที่สูง
วิเคราะห์หุ้นธนาคาร ต้องรู้อะไรบ้าง ?
Business Model ของธนาคาร จะเป็นการนำเงินจากคนที่มีเงินเหลือออม มาปล่อยกู้ให้กับคนที่ต้องการเงินทุนไปใช้ โดยธนาคารจะได้กำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งธนาคารยังสามารถนำเงินในมือไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ประกัน กองทุนรวม บัตรเครดิต ฯลฯ โดยเก็บรายได้จากค่าธรรมเนียม ปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อหุ้นธนาคารจึงมีดังนี้
1. อัตราเติบโตของสินเชื่อ (Loan Growth)
เป็นรายได้หลักธนาคาร สินเชื่อมักจะเพิ่มขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่ดี
2. ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก (NIM)
เป็นมาร์จินของธุรกิจธนาคาร ยิ่งส่วนต่างมากก็จะยิ่งทำกำไรได้เยอะ
3. รายได้จากค่าธรรมเนียม (Fee)
รายได้อีกส่วนของธนาคารที่มาจากค่าบัตรเครดิต ซื้อกองทุน ขายประกัน จ่ายบิล เป็นต้น
4. หนี้เสีย (NPL)
หากหนี้เสียมากก็จะส่งผลถึงความมั่นคงของธนาคาร และสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันอีกด้วย
ซึ่งปัจจุบันระดับ NPL ต่อสินเชื่อรวมที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 3%
5. เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR Ratio)
แต่ละธนาคารจะมีการกำหนดเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยง ซึ่งยิ่งสูงยิ่งแปลว่ามีความมั่นคง แต่ในอีกทางการตั้งสำรองก็จะกระทบต่อกำไรในไตรมาสนั้นๆ ด้วย
เทียบ Market Cap. หุ้นธนาคารใครใหญ่สุด
ตลาดหุ้นไทยมีหุ้นธนาคาร 11 ตัว แบ่งเป็นหุ้น Big Cap ที่มูลค่าเกิน 50,000 ล้านบาท ได้แก่ SCB, KBANK, BAY, BBL, KTB, TMB และ TISCO
หุ้น MId Cap ที่มูลค่าเกิน 10,000 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 50,000 ล้านบาท ได้แก่ KKP, TCAP, CIMBT และ LHFG
สรุปผลประกอบการหุ้นธนาคาร ปี 2563
อย่างที่บอกคือธรรมชาติของธุรกิจธนาคารนั้นขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งปี 2563 ที่ผ่านมา เจอกับวิกฤตโควิด-19 เต็มๆ ทำให้ภาพรวมผลประกอบการปรับลดลง
แต่ต้องมาติดตามกันต่อไปครับว่า งบไตรมาสแรกของปี 2564 ที่กำลังทยอยประกาศออกมาในช่วงนี้ จะมีธนาคารไหนบ้างที่กลับมาฟื้นตัวได้
หุ้นธนาคารใครถูก-ใครแพง (เช็ก P/BV)
การที่หุ้นธนาคารเป็น Cyclical stock เราจึงไม่ค่อยนิยมนำ P/E ratio มาประเมินมูลค่าหุ้น เนื่องจากมีความผันผวนในเรื่องกำไร (Earnings)
หลายคนจึงมักประเมินมูลค่าทางบัญชีผ่าน P/BV มากกว่า ทั้งนี้ อัปเดตข้อมูล ณ วันที่ 20/04/64 พบว่า P/BV ratio หุ้นธนาคารอยู่ที่ 0.84 เท่า ซึ่งค่อนข้างลงมาต่ำทีเดียว
รวมคู่มือเทคนิคดูหุ้นกลุ่มต่าง ๆ
- เทคนิคดู “หุ้นปั๊มน้ำมัน” (คู่มือเริ่มต้นลงทุน) แถมสรุป 5 หุ้นปั๊มน้ำมันที่เหมาะกับเรา
- 3 เทคนิคดู “หุ้นโรงไฟฟ้า” (คู่มือเริ่มต้นลงทุน) แถม TOP 5 หุ้นโรงไฟฟ้า
- เทคนิคดู “หุ้นโรงพยาบาล“ (คู่มือเริ่มต้นลงทุน) แถม TOP 5 หุ้นโรงพยาบาล
- เทคนิคดู “หุ้นธนาคาร” (คู่มือเริ่มต้นลงทุน) แถมเช็ก P/BV หุ้นธนาคารใครถูก-ใครแพง
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
กลุ่มความรู้นักลงทุน: http://bit.ly/3clAwZ2
กลุ่มพัฒนาตัวเอง: http://bit.ly/3ejPXnk
