เลือกเปลี่ยนภาษีเป็นเงินเกษียณ กับ RMF กองทุนเด็ด ธีมลงทุนต่างประเทศ จาก บลจ.กรุงศรี
รีไฟแนนซ์บ้าน ทริกเล็กๆ ช่วยลดภาระได้เยอะ [พร้อมโปรฯ]
ใครกำลังผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโดอยู่ ต้องบอกว่าช่วงนี้เป็นจังหวะสำคัญที่จะขอเจรจาลดภาระดอกเบี้ยมากๆ
เพราะตอนนี้ดอกเบี้ยถูกยิ่งกว่าถูก ทั้งจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ขาติ, มาตรการช่วยเหลือจากเหตุการณ์ COVID-19 และโปรโมชั่นสินเชื่อต่างๆ ของธนาคารเอง
ซึ่งการ “รีไฟแนนซ์” เป็นหนึ่งในตัวช่วยชั้นดีที่ทำให้เราประหยัดดอกเบี้ยแบบเห็นได้ชัด วันนี้ FinSpace จึงได้สรุปเรื่องควรรู้ เกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์มาฝาก
รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร ?
คือ การย้ายไปผ่อนบ้านกับธนาคารใหม่ ซึ่งเป็นการกู้เงินก้อนใหม่ไปโปะหนี้ก้อนเก่า เพราะธนาคารใหม่เสนอโปรโมชั่นดอกเบี้ยถูกกว่า ทำให้ผ่อนชำระต่อเดือนถูกลง ผ่อนหมดเร็วขึ้น
โดยปกติแล้วจะรีไฟแนนซ์ได้ ต้องผ่อนกับธนาคารเดิมมากกว่า 3 – 5 ปี (ระบุไว้ให้ในสัญญากู้) ซึ่งหากสัญญาเราครบกำหนดเงื่อนไขแล้ว แนะนำว่าควรมองหาช่องทางเจรจาลดดอกเบี้ยได้เลย เพราะพอหมดโปรโมชั่นดอกเบี้ยในปีแรกๆ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายมักปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ
..
รีไฟแนนซ์ ช่วยให้ผ่อนถูกลงยังไง ลองมาดูตัวอย่างแบบชัดๆ
สมมุติวงเงินกู้ 3,000,000 บาท ระยะเวลาผ่อนเหลือ 25 ปี โดยอัตราดอกเบี้ย 6.8% ต่อปี
หากผ่อนต่อไปโดยไม่รีไฟแนนซ์ แปลว่าเราต้องจ่ายทั้งหมด
[ ยอดหนี้คงเหลือ 3,000,000 บาท + ดอกเบี้ย 3,246,649 บาท ] = 6,246,649 บาท
แต่ถ้าสมมุติเลือกรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ โดยดอกเบี้ยลดลงเหลือ 3.75% ต่อปี
คำนวณสุทธิออกมาแล้ว ยอดหนี้ + ดอกเบี้ย จะเหลือเพียง 4,627,181 บาท
อ้างอิงข้อมูลจาก : https://www.refinn.com
รีไฟแนนซ์บ้าน ดียังไง ?
1. ลดดอกเบี้ย
เนื่องจากช่วงปีแรกๆ ธนาคารมักจัดโปรโมชั่นดอกเบี้ยถูกให้ผู้กู้ จากนั้นดอกเบี้ยจะสูงขึ้น คนส่วนใหญ่จึงมักขอรีไฟแนนซ์ หรือไม่อย่างนั้นก็อาจเจรจาขอลดดอกเบี้ยแทน
2. ลดค่าผ่อน
เมื่อดอกเบี้ยถูกลง เป็นปกติที่ค่าผ่อนแต่ละเดือนจะถูกลงไปด้วย และอาจช่วยให้ผ่อนหมดได้เร็วขึ้นได้เช่นกัน
3. เพิ่มวงเงิน
การรีไฟแนนซ์เราสามารขอวงเงินกู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมบ้าน ตกแต่งบ้านได้ และก็มีความเป็นได้ที่ราคาประเมินของบ้านจะสูงขึ้น ทำให้ได้วงเงินมากกว่าเดิมนั่นเอง
เรื่องที่ต้องเช็ก ก่อนรีไฟแนนซ์
1. เช็กสัญญาเงื่อนไขเดิม
อันดับแรกก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ ต้องเช็กเงื่อนไขสัญญาเดิมก่อนว่า เราสามารถเริ่มทำสัญญาใหม่ได้ตอนไหน ซึ่งส่วนมากจะกำหนดให้เริ่มรีไฟแนนซ์ได้เมื่อผ่อนไปแล้ว 3 ปี เพราะหากทำผิดสัญญาอาจจะเสียค่าปรับเอาได้ ซึ่งไม่คุ้มแน่นอน
2. เปรียบเทียบเงื่อนไขกับธนาคารอื่นๆ
หลังจากนั้นแล้ว ค่อยนำข้อมูลโปรโมชั่นสินเชื่อขงอหลายๆ ธนาคารมาเทียบกัน ว่าที่ไหนถูกสุด เงื่อนไขเป็นยังไง เพราะจะรีไฟแนนซ์ทั้งทีต้องได้ความคุ้มค่าที่สุด
3. สำรวจค่าใช้จ่าย-ค่าธรรมเนียมว่าคุ้มค่าไหม
การรีไฟแนนซ์ทำให้ดอกเบี้ยลดลงจริง แต่ก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น
– ค่าอากรแสตมป์
– ค่าประเมินมูลค่า
– เบี้ยประกันอัคคีภัย
– เบี้ยประกันคุ้มครองวงเงินกู้ (MRTA)
เรื่องนี้ต้องคำนวณบวกลบกันให้ดีว่าคุ้มไหมที่จะรีไฟแนนซ์
รวมโปรโมชั่น รีไฟแนนซ์บ้าน 2563
1. สินเชื่อรีไฟแนนซ์ แบบทำประกัน ไม่ขอวงเงินเพิ่ม รายได้ 30,000 บาทขึ้นไป
ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย
ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.89%
2. สินเชื่อบ้าน UOB Refinance แบบทำประกัน
ธนาคารยูโอบี
ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.99%
3. สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 3.02%
4. โครงการสินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Refinance in) ปี 2563
ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 3.025%
5. รีไฟแนนซ์บ้าน
ธนาคารทิสโก้
ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 3.30%
..
อ้างอิงข้อมูลจาก https://www.gobear.com/th/lp/home-refinance
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb