วางแผนลงทุนอย่างไร…ในช่วง “โควิด” วิกฤต – นายแว่น ลงทุน
ในห้วงภาวะโควิดวิกฤต บางสิ่งเกิด บางสิ่งดับไป บางสิ่งจะกลับมาได้ บางสิ่งจากไปแล้วไม่กลับมา … มีกูรูหลายท่านให้ทัศนะไว้ว่า … พฤติกรรมของผู้คนในยามวิกฤตจะเปลี่ยนแปลงไป และอาจจะเปลี่ยนไปตลอด เช่น การซื้อของออนไลน์ การประชุมทางไกล ธุรกิจบางอย่างอาจหายไป และไม่กลับมาอีก
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร การคาดเดาผลลัพธ์มักจะส่งผลร้ายมากกว่าผลดี ? ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น การลงทุนแท้จริงเรา เราไม่ควรคาดเดาผลลัพธ์อะไรเลย เนื่องจากการคาดเดาผลลัพธ์จะเป็นการให้กำเนิดตัวตนของ “ความคาดหวัง” ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจในพลังสมองของนักลงทุน
แล้วเราจะวางแผนการลงทุนอย่างไรในภาวะโควิดวิกฤตแบบนี้เล่า ? ลองทำใจเป็นกลาง และมองอย่างที่มันเป็น จำลองสถานการณ์ออกมา ดังต่อไปนี้
? สถานการณ์แรก … “วิกฤตจบเร็วกว่าที่คิด”
หากวิกฤตมันจบเร็วกว่าที่คิด จะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร ? ที่จริงแล้วสิ่งนี้เราสามารถดูตัวอย่างได้จากประเทศจีน ที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และจบสถานการณ์ได้รวดเร็วภายใน 1-2 เดือนเท่านั้น
จะเห็นว่า ความต้องการเหล็กของจีน กลับมาอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เหตุการณ์โควิดไวรัสคลี่คลายสลายลง ความต้องการเหล็กในประเทศจีนก็พุ่งเป็น V Shape หากเราดูตามนี้ คำถามก็คือ มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ว่า … ถ้าสถานการณ์จบเร็ว เศรษฐกิจอาจจะกลับมาเร็วแบบนี้บ้าง ?
? สถานการณ์ที่สอง … “วิกฤตจบช้ากว่าที่คิด”
หากวิกฤตลากยาว การแพร่กระจายเชื้อออกเป็นวงกว้าง และยึดเยื้อยาวนาน เสมือนเราทำสงครามรบแบบยึดเยื้อ ถ้าทำสงครามกันยาว ๆ ผู้ชนะคงไม่ใช่ผู้ที่เก่งที่สุด แต่น่าจะเป็นผู้ที่อึดที่สุด แม่ทัพที่ไม่เก่งถ้ารู้ว่าศัตรูมีเสบียงไม่มาก ก็จะทำศึกยึดเยื้อ ถ้าคนเก่งแต่เสบียงหมด ก็พ่ายแพ้อย่างหมดรูปได้เหมือนกัน
หากสถานการณ์ยึดเยื้อ เราต้องตุนเสบียงเอาไว้ให้มาก เสบียงของเราในการทำการรบก็คือ “เงินสด” หรือสิ่งที่เรียกว่า Cash is King ซึ่งในภาวะวิกฤต เงินสดจะมีคุณค่ามากที่สุด
ถ้าเราคิดว่าสถานการณ์จะยึดเยื้อ เราควรตุนเสบียงเอาไว้ให้มากที่สุด สมมติว่าสถานการณ์ลากยาวเป็นปี อาจจะ 1-2 ปี ในเวลาที่สถานการณ์ใกล้สิ้นสุด คนที่มีเงินสดในมือมากย่อมได้เปรียบในการเลือกหุ้นนั่นเองครับ
?แล้วเราจะลงทุนระหว่างทางได้หรือไม่ ?
หากเราเก็บเงินสดไว้แล้วรู้สึก “อึดอัด” การลงทุนระหว่างรอสถานการณ์คลี่คลายก็น่าจะทำได้ ถ้าเราคิดจะลงทุนหุ้น หุ้นที่จะลงทุนอย่างน้อยที่สุดควรจะรอดจากวิกฤตนี้ไปได้ หุ้นที่มีสายป่านยาว หุ้นที่หนี้น้อย กระแสเงินสดยังดี หรือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องกินต้องใช้ แม้ในยามวิกฤตก็หยุดกินหยุดใช้ไม่ได้
? ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ …
ในยามวิกฤตสิ่งที่ต้องทำอันดับแรกก็คือ “เราต้องรอดให้ได้” เสียก่อนจะทำอย่างอื่น เก็บข้องอเข่า อะไรที่ไม่จำเป็น สิ่งฟุ่มเฟือยก็ต้องตัดทิ้งไป ส่วนในเรื่องของการลงทุน เราก็ต้องมองด้วยใจเป็นกลาง ไม่มองดีมาก หรือมองร้ายจนทำให้เกิดความไม่กล้าลงทุน วางแผนดี ๆ จำลองสถานการณ์ที่ควรจะเป็น ผมคิดว่าวิกฤตครั้งนี้จะเป็นโอกาสครั้งใหญ่ เพียงแต่เราต้องไม่ผลีผลาม และไม่ประมาทนะครับ
ติดตามบทความ การเงิน สนุกๆกันต่อได้ที่ FinSpace – Finance
ติดตามบทความอื่น ๆ ของ Guru นายแว่นลงทุน
ได้ที่ Website : www.topofliving.com
หรือ Facebook : นายแว่น ลงทุน – Naiwaen Investment
อ่านอะไรต่อดี…