ถอดรหัสประเมินมูลค่าหุ้น … “หุ้น 6 ประเภท”
การลงทุนหุ้นเราต้องรู้จักประเภทหุ้น และการรู้จักประเภทหุ้นจะทำให้การประเมินมูลค่าหุ้นแม่นยำขึ้นได้ไม่ยาก ลองติดตามกันต่อไปว่า
เราจะประเมินมูลค่าหุ้นแต่ละประเภทอย่างไร ติดตามกันให้ได้นะครับ
ถอดรหัสประเมินมูลค่าหุ้น … “หุ้น 6 ประเภท”
1. หุ้นโตแข็งแกร่ง แต่โตช้า Slow Grower Stock
สำหรับหุ้นประเภทแข็งแกร่ง แต่โตช้า ส่วนใหญ่แล้ว จะอยู่ในหุ้นขนาดใหญ่ ใน SET50 SET100 โดยหุ้นกลุ่มนี้ มีความแข็งแกร่งจากการประกอบกิจการมานาน
แต่การเติบโตอาจไม่รวดเร็ว เช่น หุ้นบางตัวมียอดขายหลักแสนล้านบาท การที่จะเพิ่มยอดขายซัก 20% ถือเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว
วิธีการประเมินมูลค่าหุ้นแบบนี้ เราอาจต้องประเมินจากผลตอบแทนจากการลงทุนที่เราพอใจ แลกกับความเสี่ยงที่น่าจะไม่มาก เมื่อเทียบกับหุ้นขนาดเล็กครับ
2. หุ้นโตเร็ว และจังหวะการลงทุนในหุ้นโตเร็ว Growth Stock
หุ้นกลุ่มนี้มักอยู่ในหุ้นขนาดกลาง ถึงขนาดเล็ก อาจมีขนาดกิจการหลักพันล้านบาท หรือหลักหมื่นล้าน แต่ยังไม่ถึงแสนล้าน ด้วยความเติบโตรวดเร็ว ทำให้เราไม่สามารถคาดหวัง
“เงินปันผล” มากมายอะไรนัก เนื่องจากอยู่ในเฟสเติบโต เมื่อกิจการทำมาหาได้ก็มักจะเก็บเงินไว้ลงทุนต่อยอดไปเรื่อยๆ
3. หุ้นพลิกฟื้น หรือ Turn Around Stock
หุ้นประเภทนี้ถือเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงสุดในมุมมองของนักลงทุนทั่วไป เนื่องจากกิจการส่วนใหญ่ที่จะพลิกธุรกิจจากติดลบ กลับกลายเป็นบวก มักไม่ฟื้นจริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยจะดี หุ้นกลุ่มนี้ถือว่า เสี่ยงมากที่จะลงทุน … ทว่า … หากเราคิดถูก หุ้นกลุ่มนี้จะสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนค่อนข้างมาก เรียกว่า เป็นเด้ง ๆ กันเลยทีเดียวครับ
4. หุ้นวัฏจักร Cyclical Stock
หุ้นวัฏจักร จัดเป็นหุ้นท่ายากอีกประเภทหนึ่ง แต่ถ้าวัฏจักรกลับพลิกเป็นขาขึ้น โอกาสทำกำไรกับหุ้นกลุ่มนี้ก็มีสูงเช่นกันครับ โดยส่วนใหญ่แล้ว วัฏจักรจะแบ่งเป็น 2 ระดับ
คือ วัฏจักรสั้นๆ ตามสภาพเศรษฐกิจ กับ วัฏจักรรอบยาว ตามวิกฤติที่เกิดขึ้นราวๆ 10-12 ปีต่อครั้ง
หุ้นแบบนี้ นักลงทุนต้องซื้อให้ได้ในราคาต่ำ และต้องได้จังหวะด้วย เพราะในยามขาขึ้น กำไรจะเติบโตเร็วมาก โดยเฉพาะหุ้นที่มีลักษณะที่ “หนักค่าเสื่อมราคา” หรือมีต้นทุนคงที่สูง ๆ เวลากลับเป็นขาขึ้นกำไรจะเติบโตเร็วมากๆ ครับ
5. หุ้นสินทรัพย์แฝง หรือ Asset Play Stock
หุ้นสินทรัพย์ นักลงทุนบางท่านจะหลีกเลี่ยงไม่ลงทุนเลย เพราะหุ้นกลุ่มนี้มักจะมีสินทรัพย์มากกว่าขนาดกิจการมาก ๆ ก็จริง แต่ถ้าเจ้าของกิจการไม่คิดจะ “ปลดล็อก”
สินทรัพย์ออกมา เราก็ทำอะไรไม่ได้เลย แค่มองเห็นสินทรัพย์ในกิจการเฉย ๆ ราคาหุ้นก็ไม่ขยับไปไหนเช่นกัน
6. หุ้นปันผล หรือ Divined Stock
หุ้นปันผล จะอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันที่ “ลงตัวแล้ว” หมายความว่า คู่แข่งที่อยู่ในอุตสาหกรรมต่างก็รู้สึกว่าไม่อยากจะแข่งขันลดราคาสินค้ากันอีก
ในขณะเดียวกัน คู่แข่งหน้าใหม่ก็ไม่อยากจะเข้ามายุ่ง เนื่องจากอุตสาหกรรมอาจจะอิ่มตัว และไม่เติบโต แต่ยังสามารถสร้างกระแสเงินสดได้เรื่อยๆ ทำให้เงินปันผลสม่ำเสมอ
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
กลุ่มความรู้นักลงทุน: http://bit.ly/3clAwZ2
กลุ่มพัฒนาตัวเอง: http://bit.ly/3ejPXnk