เฟ้นหา หุ้นผลตอบแทนสูง เพื่อการลงทุนระยะยาว
สำหรับนักลงทุนแนว Active Investor หรือนักลงทุนเชิงรุกที่ต้องการปั้นพอร์ตให้เติบโตในระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง การมองหาหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูง อาจจะอยู่ในความสนใจของเรา เฉกเช่นเดียวกับการลงทุนหุ้นเติบโตในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม การมองหาหุ้นผลตอบแทนที่สูงนั้น คำว่า “ผลตอบแทนสูง” อาจนิยามในหลายกรณี บางคนต้องการผลตอบแทนแค่ 10% ต่อปีก็ถือว่าสูงแล้ว แต่บางคนต้องการมากกว่านั้น สำหรับคนที่ต้องการผลตอบแทนสูง ๆ ลองมาดูวิธีการดังต่อไปนี้
ประการแรก … “อย่าสนใจหุ้นราคาถูกเรื้อรัง ให้ตั้งเป้าผลตอบแทนที่พอใจ”
สำหรับนักลงทุนที่เน้นเงินปันผล การที่หุ้นมีราคาถูกอยู่เสมอให้เราได้เก็บสะสม ถือเป็นเรื่องดี เพราะถ้าเงินปันผลไม่ลดลง หุ้นที่ราคาถูกเรื้อรังแบบนี้ทำให้เราเก็บสะสมหุ้นได้เรื่อย ๆ แต่สำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนโดดเด่นจากส่วนต่างราคาหุ้นต้องคิดอีกแบบ นักลงทุนที่ชอบผลตอบแทนสูง ควรตั้งเป้าผลตอบแทนที่พอใจเป็นจุดเริ่มต้น เป็นเมล็ดพันธุ์ในหัวของเรา เราอาจตั้งเป้าผลตอบแทน 30-50% ต่อปี และค่อยนำเป้าที่ตั้งมามองหาหุ้นที่จะลงทุน
ประการที่สอง … “มองหากิจการที่จะมียอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด”
เมื่อเราตั้งเป้าผลตอบแทนในแบบที่เราต้องการแล้ว เราก็ต้องมองหากิจการที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด “เท่านั้น” ผมเน้นคำว่าเท่านั้นเป็นเพราะวิธีการลงทุนแบบนี้ เราจะไม่มองหากิจการที่ผลตอบแทนธรรมดา หรือไม่โตก้าวกระโดด แต่เราจะเน้นที่กิจการที่จะโตเด่นในอนาคตอันใกล้
ประการที่สาม … “ยอดขายที่เติบโตต้องมีความแน่นอนสูง”
บางทีเราคิดว่ายอดขายจะต้องโต ผลประกอบการต้องโต แต่ความจริงแล้วยอดขายมันผูกไว้กับออเดอร์ที่มีความไม่แน่นอน เช่น ยอดขายรถยนต์ส่งออก หากการส่งออกแย่ลงความไม่แน่นอนที่ยอดขายจะเติบโตย่อมหายไป ยอดขายที่เราคิดว่าเติบโตต้องมีความแน่นอนมาก ๆ เพราะการลงทุนแบบนี้มีความเสี่ยงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น กิจการที่เราเห็นว่าจะได้รับออเดอร์ใหญ่ และออเดอร์นี้จะมาเรื่อย ๆ แบบนี้ถือว่าดี
ประการที่สี่ … “กำไรต้องเติบโตอย่างมากในอนาคต”
ยอดขายโต แต่กำไรต้องโตด้วย บางกิจการยอดขายโตก็จริง แต่มีการแข่งขันตัดราคากันสูงมาก ๆ เรียกว่าเราอยู่ในสมรภูมิรบของ “สงครามราคา” แบบนี้กำไรคงจะโตยาก หากกำไรเติบโตราคาหุ้นจะโตเร็วเช่นกัน
ประการที่ห้า … “ราคาหุ้นต้องยังไม่ตอบรับ” (สามารถดูได้จากการเก็บหุ้นของนักลงทุนในตลาด)
หากเราเจอหุ้นที่ยอดขายโต กำไรโต แต่ราคาหุ้นแพงไปแล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย … เราต้องมองหาหุ้นที่ยอดขายโต กำไรกำลังจะโต (คนยังไม่คาดคิด) และราคาหุ้นยังถูก สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องยาก ถ้ามันง่ายคงมีเซียนเดินชนกันเต็มไปหมด แต่เราต้องหามันให้เจอ
ประการสุดท้าย … “ซื้อและถือรอในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี”
การกำหนดระยะเวลาการถือครองหุ้นถือเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนแบบนี้ เพราะว่า “ต้นทุนเวลา” เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน หากเราถือหุ้น 3 ปี โต 30% เท่ากับเราได้แค่ 10% ต่อปี แบบนี้เราไปถือหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำจะดีกว่า
ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ
… วิธีการแบบนี้ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่า คนที่ทำสำเร็จได้มีน้อยมาก การลงทุนระยะยาวในหุ้นที่ดีเป็นการลงทุนที่ง่ายกว่ามาก และผลก็ดีในระยะยาว หากเราไม่เก่งจริงไม่ควรลงทุนด้วยวิธีการที่กล่าวมาข้างต้น ลองพิจารณากันดูครับ เงินของท่านท่านต้องรับผิดชอบด้วยตัวท่านเอง #นายแว่นลงทุน
ติดตามบทความ การเงิน สนุกๆกันต่อได้ที่ FinSpace – Finance
ติดตามบทความอื่น ๆ ของ นายแว่นลงทุน ได้ที่ FinSpace – นายแว่นลงทุน
Website : http://www.topofliving.com
Facebook : https://www.facebook.com/NaiwaenTammada/