เบื้องหลังการสร้างรายได้จากไอเดีย: 10 กุญแจสำคัญของสายอาชีพครีเอทีฟ
เคยสังเกตกันบ้างไหมคะว่าทุกวันนี้เราใช้เวลาไปมากมายขนาดไหนกับการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร เรื่องราวต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตและการออกอากาศ เรียกได้ว่าสื่อมีบทบาทไม่น้อยต่อการดำเนินชีวิตของเรา เป็นยุคสมัยของข้อมูลข่าวสาร ความรู้ และไอเดียใหม่ ๆ หรือที่เรียกกันว่าสังคมฐานความรู้ (Knowledge-based Society) ความคิดสร้างสรรค์จึงมีบทบาทสำคัญที่เกี่ยวพันกับการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ยุคสมัยนี้จึงมาพร้อมกับการเติบโตของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative industries)
งานสายครีเอทีฟมีอาชีพแบบไหนบ้าง
กรมดิจิทัล วัฒนธรรม สื่อ และกีฬา (DCMS) ของรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ให้ความหมายของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ว่า “กิจกรรมใด ๆ ที่เป็นผลมาจากความคิดสร้างสรรค์ ทักษะ และความสามารถของแต่ละคน ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าและอาชีพได้ ผ่านการสร้างและใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญา” โดยแบ่งประเภทงานในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรืองานสายครีเอทีฟ ออกเป็น 9 ประเภท คือ
1. ดนตรี ศิลปะการแสดง ทัศนศิลป์
2. งานฝีมือ
3. ภาพยนตร์ โทรทัศน์ แอนิเมชัน วิชวลเอฟเฟกต์ วีดิโอ วิทยุ และการถ่ายภาพ
4. เกมวิดีโอ virtual reality
5. พิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี
6. อุตสาหกรรมการตีพิมพ์และห้องสมุด
7. การออกแบบ
8. สถาปัตยกรรม
9. การโฆษณา และการตลาด
เรียกได้ว่าทั้งหมดล้วนเป็นงานที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดชิ้นงาน ความรู้และทักษะการคิดจึงเป็นเหมือนทรัพยากรสำคัญของอาชีพเหล่านี้ และเนื่องจากอาชีพเหล่านี้ยิ่งมีบทบาททางเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อย ๆ งานสายครีเอทีฟจึงเป็นที่สนใจของใครหลายคน มาดูกันว่า อาชีพสายอุตสาหกรรมการสร้างสรรค์ หรือสายครีเอทีฟนั้น มีหลักคิดอย่างไรบ้างที่อยู่เบื้องหลังการทำงาน ที่ทำให้ทำงานผ่านไปอย่างราบรื่นและไม่กดดันจนเกินไป
1. หาความรู้และตามทันกระแสอยู่เสมอ ทุกอย่างบันดาลให้เกิดไอเดียได้
Tip การเปิดใจกับเทคโนโลยีและการพูดคุยกับคนใหม่ ๆ จะทำให้เราเรียนรู้เรื่องราวจากหลากหลายมุมมองและรู้เท่าทันกระแส
2. ไม่ยึดติดกับแพทเทิร์นหรืออยู่ในกรอบตลอด
3. ไอเดียเจ๋ง ๆ มักมาจากการรวบรวมไอเดียรอบตัวที่มีอยู่แล้วและทบทวนซ้ำไปมา
Tip นักสร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องเสนอไอเดียใหม่ การจุดประกายให้ผู้อื่นเกิดไอเดียใหม่เองก็เป็นสิ่งที่นักสร้างสรรค์ทำได้เช่นกัน
4. ระลึกอยู่เสมอว่างานสร้างสรรค์ไม่ใช่เรื่องของความสมบูรณ์แบบ
5. หยุดเค้นสมองเมื่อคิดงานไม่ออก และหาวิธีพักสมองที่ต้องคิดงานอยู่ตลอดในแบบของตัวเอง
Tip การพักผ่อนไปกับงานอดิเรกที่ชอบไม่ใช่เรื่องของการเสียเวลา เมื่อสมองได้พักการคิดงานอย่างหนัก ปัญหาความเครียดจะลดลงและสมองปลอดโปร่งขึ้น
6. เอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการคิดงาน
7. สร้างงานที่ตนเองอยากใช้ อยากชม อยากอ่าน
8. หาวิธีรักษาสมดุลทั้งเรื่องสไตล์ของงานและเรื่องความรู้สึก เมื่อต้องรับฟีดแบ็ก
Tip ทักษะการสื่อสารสำคัญอย่างมากในการนำเสนองานของเรากับลูกค้าหรือผู้รับชม การสื่อสารไอเดียอย่างมีทักษะสามารถลดฟีดแบ็กที่เกิดจากการไม่เข้าใจงานได้ด้วย
9. เป็นเรื่องธรรมดาหากต้องปัดตกงานทิ้งไป แต่ในอนาคตอาจนำไอเดียมาปรับใช้ได้เสมอ
10. ตระหนักและเคารพในเรื่องลิขสิทธิ์ทั้งของตนเองและของผู้อื่น
แนวคิดและข้อแนะนำทั้ง 10 ข้อนี้ได้รวบรวมและสรุปมาจากการพูดคุย สอบถามจากผู้ที่ทำงานจริงในแวดวงอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ข้อแนะนำเหล่านี้อาจปรับใช้ได้กับงานอีกหลายรูปแบบ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นข้อแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้เน้นไปที่อาชีพใดอาชีพหนึ่ง ชาว FinSpace มีใครทำงานสายครีเอทีฟกันบ้าง มาแชร์คำแนะนำในการทำอาชีพสายครีเอทีฟกัน
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
กลุ่มความรู้นักลงทุน: http://bit.ly/3clAwZ2
กลุ่มพัฒนาตัวเอง: http://bit.ly/3ejPXnk
กลุ่มคริปโต บิทคอยน์ NFT: https://bit.ly/3J8LS1W
