10 รูปแบบแท่งเทียนที่ควรค่าแก่การจดจำ
วันนี้จะมาแนะนำให้รู้จักกับกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นรูปแบบกราฟที่ได้รับความนิยม และถูกใช้งานมากที่สุด
กราฟแท่งเทียนจะมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับรูปของแท่งเทียนไขที่เราคุ้นเคยกันดี โดยกราฟราคาที่เป็นรูปแท่งเทียนแท่งหนึ่งจะมีส่วนประกอบสำคัญอยู่ 2 ส่วน คือ
- ส่วนที่มีลักษณะเป็นแท่งหนาอาจจะเป็นแท่งโปร่ง(บางโปรแกรมอาจแสดงเป็นแท่งเทียนสีเขียวแทนแท่งเทียนแบบโปร่ง) หรือแท่งทึบ(บางโปรแกรมแสดงเป็นแท่งเทียนสีแดงแทนแท่งเทียนทึบ) เราจะเรียกส่วนนี้ว่าลำตัวของแท่งเทียน (Body)
- ส่วนที่เป็นเส้นบางเราจะเรียกว่าไส้เทียน (Shadow)
วิธีการวาดรูปแท่งเทียน
การวาดรูปแท่งเทียนขึ้นมาหนึ่งแท่ง จะใช้รายละเอียดของการเคลื่อนไหวของราคาทั้งหมด 4 อย่าง ได้แก่ (1) ราคาเปิด (2) ราคาสูงสุด (3) ราคาต่ำสุด และ (4) ราคาปิด
ส่วนที่เป็นลำตัวของแท่งเทียนจะใช้ข้อมูลราคาเปิดและราคาปิดในการวาด ส่วนที่เป็นไส้เทียนจะใช้ข้อมูลราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในการวาด โดยถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิดตัวแท่งเทียนจะเป็นแท่งโปร่ง (บางโปรแกรมแสดงเป็นแท่งเทียนสีเขียวแทนแท่งโปร่ง) หากราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิดตัวแท่งเทียนจะเป็นแท่งทึบ (บางโปรแกรมแสดงเป็นแท่งเทียนสีแดงแทนแท่งเทียนทึบ) ถ้าหากราคาปิดกับราคาเปิดเป็นราคาเดียวกันเราจะไม่เห็นตัวแท่งเทียน
เวลานำรูปแท่งเทียนไปใช้งาน
ในทางปฏิบัติการใช้งานกราฟแท่งเทียนจะเป็นวิเคราะห์การย้อนกลับวิธีการวาดกราฟแท่งเทียน เพราะเมื่อเราเลือกใช้งานรูปกราฟประเภทแท่งเทียน โปรแกรมจะแสดงรูปแท่งเทียนให้เราเห็น โดยแท่งเทียน 1 แท่งจะแทนการเคลื่อนที่ของราคาในช่วง Time Frame ที่เรากำหนด
ในทางปฏิบัติรูปแท่งเทียน 1 แท่ง เราจะสามารถจินตนาการการเคลื่อนที่ของราคาได้คร่าว ๆ และสามารถสรุปได้ว่าในช่วงระยะเวลาของแท่งเทียน 1 แท่ง มีอารมณ์ของคนในตลาดเป็นอย่างไร และผลการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อกับแรงขายเป็นอย่างไร
- รูปแสดงตัวอย่างการแปลความหมายของรูปแท่งเทียน 1 แท่ง ที่ฝั่งซื้อมีแรงมากกว่า
- รูปแสดงตัวอย่างการแปลความหมายของรูปแท่งเทียน 1 แท่ง ที่ฝั่งขายมีแรงมากกว่า
- รูปแสดงตัวอย่างการแปลความหมายของรูปแท่งเทียน 1 แท่ง ที่ฝั่งซื้อและฝั่งขายมีแรงพอๆ กัน และการซื้อขายไม่ผันผวน เพราะอยู่ในกรอบราคาแคบๆ
ในตลาดหุ้นที่ราคามีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รูปของแท่งเทียนที่สามารถเกิดขึ้นจึงมีมากมายหลายรูปแบบ ถ้าจะให้จำรูปแบบของแท่งเทียนให้ครบทุกรูปแบบที่มี ผมเชื่อว่าเราคงจำได้ไม่หมดแน่ๆ
วันนี้ผมจะแนะนำรูปแท่งเทียน 10 แบบที่ควรค่าแก่การจดจำ และสามารถนำไปใช้ซื้อขายได้จริง
โดยสามารถแบ่งรูปแท่งเทียนออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
- รูปแบบที่เราใช้พิจารณาการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น 5 รูปแบบ (ใช้เพื่อหาจังหวะเข้าซื้อหุ้น)
- รูปแบบที่ใช้พิจารณาการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง 5 รูปแบบ (ใช้เพื่อหาจังหวะขายหุ้นทำกำไร)
กลุ่มที่ 1 รูปแบบที่เราใช้พิจารณาการกลับตัวของราคาจากขาลงเป็นขาขึ้น (Bullish Candlestick Patterns)
- Hammer
เป็นแท่งเทียนที่มี Shadow ด้านล่างยาว และยาวกว่า Body มากกว่า 2 เท่า แสดงให้เห็นว่าหลังจากราคาเปิดของแท่งเทียนมีบางช่วงเวลาที่แรงขายเป็นฝั่งควบคุมการซื้อขายในตลาด จึงสามารถขายกดราคาให้ลดต่ำลงไปได้ แต่สุดท้ายมีแรงซื้อกลับเข้ามามากและเป็นฝั่งที่กลับมาควบคุมตลาดแทนฝั่งซื้อ และแรงซื้อมีแรงมากพอทำให้ราคาปิดอยู่ในช่วงบนของแท่งเทียน - Piercing Line
ประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง แท่งแรกจะเป็นแท่งเทียนทึบที่มี Body ยาว ราคาปิดของแท่งแรกปิดใกล้กับราคาต่ำสุด แปลว่าในแท่งเทียนแรกแรงขายยังมีความรีบร้อนในการขายและเป็นฝั่งที่สามารถควบคุมตลาดได้ ในแท่งเทียนถัดมาจะเป็นแท่งเทียนที่เป็นแท่งโปร่งและ Body ขนาดยาว ราคาเปิดของแท่งที่สองลดต่ำลงกว่าราคาปิดของแท่งแรก บ่งบอกถึงแรงขายในช่วงเริ่มต้นแท่งเทียนที่สองยังคงดีอยู่ เมื่อเวลาผ่านไปมีแรงซื้อกลับเข้ามามากสามารถดันราคาให้สูงขึ้น และราคาปิดของแท่งเทียนแท่งที่สองปิดสูงกว่ากึ่งกลางของลำตัวแท่งเทียนแท่งแรก ซึ่งบอกว่าแรงซื้อกลับมาเป็นฝ่ายควบคุมตลาดแทนฝั่งขาย - Engulfing Bull
จะประกอบไปด้วย 2 แท่งเทียน แท่งแรกจะเป็นแท่งเทียนสั้นๆ ที่มี Body ขนาดเล็ก แปลความหมายได้ว่าแรงขายเริ่มมีความเร่งรีบในการขายน้อยลง และมีการซื้อขายกันในช่วงราคาแคบๆ และแท่งเทียนถัดมาราคาเปิดของแท่งเปิดกระโดดลง แสดงให้เห็นว่าแรงขายมีความพยายามขายในช่วงต้นของแท่งเทียน แต่ระหว่างนั้นมีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างรีบร้อนไล่ซื้อทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจนราคาปิดของแท่งเทียนที่สองปิดใกล้กับราคาสูงสุดของแท่งและราคาปิดของแท่งที่สองสูงกว่า จึงเป็นรูปแท่งเทียนโปร่งยาวที่มีลำตัวขนาดใหญ่ที่ลำตัวของแท่งเทียนกลืนลำตัวของแท่งเทียนแท่งแรก แสดงให้เห็นว่าแรงซื้อชนะแรงขายและเริ่มจะเป็นฝั่งที่ควบคุมตลาด - Bullish Harami
เป็นรูปแบบที่แสดงถึงความเร่งรีบที่ลดลงของฝั่งที่ควบคุมตลาด จะประกอบไปด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง โดยแท่งแรกจะเป็นแท่งเทียนที่เป็นแท่งทึบที่มี Body ยาว ราคาปิดของแท่งเทียนแท่งแรกปิดใกล้กับราคาต่ำสุด แปลว่าในแท่งเทียนแท่งแรกแรงขายยังมีความรีบร้อนในการขายและเป็นฝั่งที่สามารถควบคุมตลาดได้ แท่งเทียนถัดมาเป็นแท่งเทียนสั้นๆ ที่มี Body ขนาดเล็ก แปลความหมายได้ว่าแรงขายเริ่มลดความร้อนแรงในการขายลง จึงซื้อขายในช่วงราคาแคบๆ (รูปแบบ Harami แท่งเทียนจะสลับตำแหน่งกันกับรูปแบบ Engulfing) - Doji
เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่ได้รับความนิยมและพูดถึงเป็นอย่างมาก Doji จะเป็นรูปแท่งเทียนแท่งเดียวที่ราคาเปิดกับราคาปิดเป็นราคาเดียวกัน (อนุโลมกรณีที่ราคาเปิดกับราคาปิดแตกต่างกันน้อยมากๆ ก็อาจถือว่าเป็นรูปแบบ Doji ได้เช่นกัน) ตีความได้ว่าทั้งฝั่งแรงซื้อและฝั่งแรงขายมีความสับสนในทิศทางของราคา ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะออกแรงให้ราคาไปในทิศทางเดิมหรือไม่ จึงสามารถใช้รูปแบบ Doji พิจารณาการกลับตัวของราคาได้ ข้อแนะนำคือรูปแบบ Doji ที่น่าสนใจควรจะเป็น Doji ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ราคาขึ้นหรือลงอย่างชัดเจน
กลุ่มที่ 2 รูปแบบที่เราใช้พิจารณาการกลับของราคาตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง (Bearlish Candlestick Patterns)
รูปแบบแท่งเทียนที่เป็น Bearish จะมีรูปแบบที่ตรงข้ามกับกับรูปแบบ Bullish
โดยรูปแบบ Bearish จะมีความน่าสนใจก็ต่อเมื่อราคาในช่วงก่อนหน้าแท่งเทียนแบบ Bearish เป็นขาขึ้น ซึ่งถ้าเราเข้าใจการตีความของแท่งเทียนแบบ Bullish แบบต่างๆ ก็สามารถใช้หลักการเดียวกันแต่ทิศทางตรงข้ามมาทำความเข้าใจรูปแบบ Bearish ได้
รูปแบบ Bearish จะสามารถจับคู่กับรูปแบบ Bullish ที่ตรงข้ามกันได้ดังนี้
- Inverted Hammer (บางทีอาจเรียกว่า Shooting Star) ตรงข้ามกับ Hammer
- Dark Cloud Cover ตรงข้ามกับ Piercing Line
- Engulfing Bear ตรงข้ามกับ Engulfing Bull
- Bearish Harami ตรงข้ามกับ Bullish Harami
- Doji มีหน้าตาของแท่งเทียนเหมือนกับแบบ Bullish
ขอแนะนำเทคนิคเพิ่มเติมในการนำรูปแบบแท่งเทียนไปใช้ซื้อขายจริงให้ได้ผลดียิ่งขึ้น สำหรับการซื้อขายหุ้น Time Frame ที่เหมาะสมกับการใช้คือ Time Frame 1 วัน (ระยะเวลา 1 วัน = 1 แท่ง) และเมื่อเราเห็นรูปแบบเหล่านี้เกิดขึ้นใน Time Frame 1 วัน ให้ลองปรับ Time Frame ให้สั้นลงเป็น 1 ชั่วโมง หรือ 30 นาทีเพื่อให้เห็นการเคลื่อนที่ได้ละเอียดขึ้น ซึ่งเราอยากจะเห็นว่ากราฟใน Time Frame 1 ชั่วโมงควรจะให้มุมมองเดียวกันกับกราฟ Time Frame 1 วัน ก็จะเพิ่มความน่าจะเป็นที่ราคาจะมีการกลับตัว
สรุป
จากรูปแบบการกลับตัวทั้ง 10 รูปแบบที่แนะนำให้ได้รู้จักนั้น
เป็นตัวอย่างที่ดีในการประยุกต์การอ่านรูปแท่งเทียนเพื่อวิเคราะห์ว่าอารมณ์ของคนที่เข้ามาซื้อขายในตลาดเป็นอย่างไร
จากการเปรียบเทียบอารมณ์ของกลุ่มแท่งเทียนก่อนหน้าและแท่งเทียนในปัจจุบัน
เมื่อเราเห็นว่าอารมณ์ของแท่งเทียนในปัจจุบันมีอารมณ์ที่แตกต่างจากกลุ่มแท่งเทียนก่อนหน้า
ทำให้เราได้ข้อมูลว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน ทิศทางของราคาอาจจะมีการกลับตัว
สำหรับการซื้อหุ้นแนะนำให้ใช้ Time Frame 1 วัน เพื่อดูรูปแบบการกลับตัวของราคา
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
กลุ่มความรู้นักลงทุน: http://bit.ly/3clAwZ2
กลุ่มพัฒนาตัวเอง: http://bit.ly/3ejPXnk