รีวิว 3 บัตร Travel Card ฉบับคนใช้จริง โนสปอน! ใบไหนคุ้มสุด?
#จ่ายคุ้มอยู่หมัด | ใครเป็นสายเที่ยวต่างประเทศแล้วกำลังมองหา Travel Card ดี ๆ สักใบเอาไว้ใช้รูดชอปปิงที่ต่างประเทศบ้าง ยกมือขึ้น! 🙋🏻♀️✈️
วันนี้ FinSpace จะมารีวิว 3 บัตร Travel Card จาก 3 ธนาคาร โดยเป็นบัตรที่แอดใช้จริง ๆ รีวิวกันแบบเรียล ๆ โนสปอนใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งบัตรทั้ง ใบที่แอดมี เป็นบัตร Prepaid ที่ต้องมีการเติมเงินเข้าบัตรหรือมีเงินในบัญชีเพื่อแลกจากเงินบาทเป็นสกุลเงินต่างประเทศก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ มาดูกันว่าบัตรแต่ละใบจะมีจุดเด่นอย่างไรกันบ้าง แล้วบัตรใบไหนคุ้มสุด?
💜 บัตร Planet SCB
จุดเด่น
- รองรับสกุลเงินต่างประเทศกว่า 13 สกุลเงิน ได้แก่ USD, EUR, GBP, JPY, AUD, CHF, SGD, HKD, NZD, CAD, CNY, KRW และ TWD
- ใช้จ่ายคุ้มทั่วโลก ไม่มีชาร์จ 2.5% ค่าความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ จะรูดช้อป แตะจ่าย หรือช้อปออนไลน์ ก็คุ้มทุกสกุลเงิน รวมถึงสกุลไทยบาท
- รับฟรี ประกันการเดินทางจาก CHUBB สูงสุด 10 วัน วงเงินคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 2,000,000 บาท
- สมัครวันนี้ รับฟรีเครดิตเงินคืนค่าธรรมเนียมแรกเข้า 200 บาท ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566
คุณสมบัติผู้สมัครบัตร
- อายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไป
- มีบัญชีออมทรัพย์ หรือ กระแสรายวันที่เป็นบัญชีเดี่ยวของธนาคารประเภทบุคคลธรรมดาทั้งชาวไทยและต่างชาติ
- มี SCB EASY App
ใครที่มีบัญชีของไทยพาณิชย์และมี SCB Easy App อยู่แล้วสามารถสมัครบัตรออนไลน์ผ่านแอปฯ SCB Easy ได้เลย ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/cards/prepaid-cards/planet-scb-card.html
รีวิวฉบับคนใช้จริง
บัตร Planet SCB เป็นบัตร Travel Card ใบแรกที่แอดสมัคร เพราะ SCB ถือเป็นแบงก์แรก ๆ เลยที่มี Travel Card ส่วนตัวแอดเป็นคนเดินทางไปต่างประเทศบ่อย แล้วก็มีกดซื้อของจากต่างประเทศที่ไทยด้วย เห็นว่าน่าใช้ดี ก็เลยจัดเลย ลองใช้ที่แรกที่ญี่ปุ่น ค่อนข้างโอเค ตอนแรกที่ใช้ก็แอบงง ๆ นิดหน่อย แต่ Call Center บริการดี ตอนนั้นที่แอดเอาไปใช้กดเงินที่ญี่ปุ่นแล้วกดไม่ได้ ไปบ่นใน Twitter (ที่ตอนนี้เป็น X ไปละ) แป๊บเดียวก็มีแอค Official ของ SCB ทัก DM มาแก้ปัญหาให้เลย ประทับใจมาก
บัตรนี้จะต้องมีการเติมเงินเข้าบัตรก่อนถึงจะแลกเงินต่างประเทศได้ ฟีลเหมือนแอปเป๋าตังค์อะไรทำนองนั้น แอบวุ่นวายนิดนึง แต่หลัง ๆ แอดไม่ค่อยได้ใช้บัตรนี้แล้วเพราะเรทค่อนข้างสูงกว่าบัตรใบอื่น ๆ ที่แอดมี
💛 บัตร Krungsri Boarding Card
จุดเด่น
- รองรับสกุลเงินต่างประเทศกว่า 16 สกุลเงิน ได้แก่ JPY, KRW, HKD, SGD, USD, EUR, AUD, CAD, CHF, CNY, DKK, GBP, NOK, NZD, SEK, และ TWD
- ไม่มีชาร์จ 2.5% เมื่อช้อปออนไลน์ ชำระค่าสินค้า/บริการทั่วโลก หรือชำระค่าสิน/บริการ กับร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VISA ได้ทั่วโลก
- สามารถตั้งล็อกซื้อสกุลเงินต่างประเทศในเรทที่ถูกใจไว้ล่วงหน้าได้ 15 วัน บน KMA-Krungsri Mobile App โดยเมื่อถึงเรทอัตราแลกเปลี่ยนที่ตั้งไว้ สามารถเลือกได้ว่าจะให้ระบบแจ้งเตือนหรือแลกให้อัตโนมัติ โดยสามารถตั้งล็อกซื้อเรทถูกใจได้สูงสุด 3 รายการ
- ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกก็สามารถแลกเงิน ปรับเปลี่ยนวงเงินการถอน รูดชำระค่าสินค้า และ เปิด-ปิดการใช้งานบัตรได้ด้วยตัวเอง ตลอด 24 ชั่วโมง
- สมัครวันนี้ ฟรีค่าธรรมเนียมสมัครบัตร 150 บาท ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566
คุณสมบัติผู้สมัครบัตร
- บุคคลธรรมดาอายุ 12 ปีขึ้นไป สัญชาติไทย หรือ ชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย และมี work permit passbook
- มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของธนาคารกรุงศรี และมี KMA – Krungsri Mobile App
- ลูกค้า 1 ท่าน สามารถสมัครบัตรได้ 1 ใบ
ใครที่มีบัญชีของกรุงศรีและมี KMA Krungsri Mobile App อยู่แล้วสามารถสมัครบัตรออนไลน์ผ่านแอปฯ KMA ได้เลย ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungsri.com/th/personal/card/krungsri-boarding-card
รีวิวฉบับคนใช้จริง
บัตร Travel Card ใบนี้เป็นบัตรที่แอดชอบที่สุดในบรรดา 3 บัตรที่มีอยู่ เพราะเรทค่อนข้างถูก แต่เอาจริง ๆ แล้วเรทจะไม่ต่างกับบัตร Krungthai Travel Card มาก แต่ถูกกว่า Planet SCB ค่อนข้างเยอะอยู่ แถมอย่างที่บอกไปว่าเขามีระบบแจ้งเตือนเรทเงินด้วย หากเรทถึงตามที่เราตั้งไว้แอปก็จะแจ้งเตือนมา นอกจากนี้ยังสามารถตั้งซื้อสกุลเงินต่างประเทศอัตโนมัติได้ด้วยเมื่อเรทถึงตามที่เราต้องการ เรียกได้ว่าอำนวยความสะดวกให้เราขั้นสุด เพราะบางทีเราก็ไม่ได้มีเวลามานั่งจ้องเรทอยู่ตลอดเวลา บัตรนี้ไม่ต้องเติมเงินเข้าบัตร แค่มีเงินในบัญชีของกรุงศรีก็สามารถกดแลกเงินต่างประเทศได้เลย สะดวกมาก ๆ ไม่ต้องวุ่นวายสองต่อ เติมเงินเข้าบัตรแล้วมาแลกเงินอีก ล่าสุดแอดเอาไปรูดที่เกาหลีก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเกาหลีเขารับบัตรแทบทุกร้าน (ยกเว้นพวก Street Food ข้างทาง) ไม่ต้องพกเงินสดไปเลย
💙 บัตร Krungthai Travel Card
จุดเด่น
- รองรับสกุลเงินต่างประเทศกว่า 19 สกุลเงิน ได้แก่ AUD, CAD, CHF, DKK, EUR, GBP, HKD, INR, JPY, KRW, MYR , NOK, NZD, RUB, SEK, SGD, TWD, USD และ THB
- ไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%
- แลกเงินและจัดการบัตร Krungthai Travel Visa Platinum Card ง่าย ๆ ตลอด 24 ชม. ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
- ประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ด้วยวงเงินประกันคุ้มครองสูงสุด 6,000,000 บาท ในกรณีใช้บัตร Krungthai Travel Visa Platinum Card ชำระค่าบัตรโดยสารยานพาหนะสาธารณะ รับประกันโดย บมจ. ทิพยประกันภัย
- สมัครวันนี้ ฟรีค่าธรรมเนียมการออกบัตรและค่าธรรมเนียมรายปีมูลค่า 600 บาท ทั้งบัตรหลัก และ บัตรเสริม กรณีออกบัตรใหม่ และออกบัตรทดแทน ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566
คุณสมบัติผู้สมัครบัตร
- บัตรหลัก: เป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยสามารถสมัครบัตรหลักได้รายละ 1 บัตร
- บัตรเสริม: เป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 10 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยสามารถถือบัตรเสริมได้เพียงรายละ 1 บัตร และสามารถสมัครบัตรเสริมฯให้ผู้อื่นได้รายละ 3 บัตร
ใครที่มีบัญชีของกรุงไทยและมีแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT อยู่แล้วสามารถสมัครบัตรออนไลน์ผ่านแอปฯ Krungthai NEXT ได้เลย ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://krungthai.com/th/content/personal/cards/krungthai-travel-card
รีวิวฉบับคนใช้จริง
บัตร Krungthai Travel Card เป็นบัตร Travel Card ใบที่ 3 ที่แอดสมัคร และเป็นใบที่ใช้คู่ไปกับบัตร Krungsri Boarding Card ตอนนี้ เพราะเรทเงินใกล้ ๆ กัน ห่างกันก็จุดเดียว หรือบางทีก็เท่ากัน บัตรนี้เหมือนบัตร Krungsri Boarding Card คือไม่ต้องแลกเงินเข้าบัตร แค่มีเงินในบัญชีกรุงไทยก็สามารถกดแลกเงินต่างประเทศได้เลย ข้อดีของบัตรนี้คือสามารถเลือกรับ OTP ผ่านเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือ Email ได้ เพราะบางทีเราไปต่างประเทศ ไปกดซื้อของผ่านแอป แต่ไม่ได้ใช้เบอร์ไทย ก็สามารถเลือกรับ OTP ทาง Email เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการได้เลย
เปรียบเทียบ 3 บัตร Travel Card ใบไหนคุ้มสุด?
.
และทั้งหมดนี่ก็เป็นรีวิวบัตร Travel Card ทั้ง 3 ใบ จาก 3 แบงก์ที่แอดได้ลองใช้ดูจริง ๆ ลองพิจารณาดูว่าตัวเองเหมาะกับบัตรใบไหน ซึ่งจริง ๆ แล้วแอดว่าบัตรแต่ละใบก็ไม่ได้ต่างกันมาก ต่างกันที่เรทกับฟังก์ชันนิด ๆ หน่อย ๆ ใครสะดวกสมัครของแบงก์อะไร มีบัญชีและแอปพลิเคชันของแบงก์นั้น ๆ อยู่แล้ว ก็เลือกของแบงก์นั้นไปเลยดีกว่า
แต่ข้อเสียของบัตร Travel Card คือ… รูดเพลินสุด ๆ 😂 พอเงินที่แลกมาหมด ก็สามารถเข้าแอปกดแลกเพิ่มตอนอยู่ต่างประเทศได้ 24 ชั่วโมงเลย
ลืมบอกว่าบัตร Travel Card ทั้ง 3 ใบนี้สามารถใช้ที่ไทยได้ด้วยนะ เช่น หากอยากซื้อของเป็นสกุลเงินต่างประเทศก็สามารถแลกเงินไว้ในบัตรแล้วใช้บัตรเหล่านี้จ่ายได้เลย ใครมีแพลนไปต่างประเทศเข้าแอปแล้วเห็นเรทดี ๆ ก็กดแลกเก็บไว้ก่อนได้
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
กลุ่มความรู้นักลงทุน: http://bit.ly/3clAwZ2
กลุ่มพัฒนาตัวเอง: http://bit.ly/3ejPXnk
กลุ่มคริปโต บิทคอยน์ NFT: https://bit.ly/3J8LS1W