เลือกเปลี่ยนภาษีเป็นเงินเกษียณ กับ RMF กองทุนเด็ด ธีมลงทุนต่างประเทศ จาก บลจ.กรุงศรี
5 สูตรลงทุน SSF กองพิเศษ เลือกแบบไหน เหมาะกับใคร
5 สูตรลงทุน SSF กองพิเศษ เลือกแบบไหน เหมาะกับใคร
กองทุนเพื่อการออมพิเศษ (SSF Extra หรือ SSFX) มีนโยบายกำหมดชัดเจนว่าต้องลงทุนในหุ้นไทยไม่ต่ำกว่า 65% ของมูลค่า NAV
ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อเจาะลึกในรายละเอียดของแต่ละกองแล้ว เราจะพบว่ามีความแตกต่างกันพอสมควร ด้วยกลยุทธ์หลากหลายแบบที่ตอบโจทย์นักลงทุนแตกต่างกันไป
เช่น กอง Passive โตตามดัชนี, กอง Active เน้นชนะตลาด, กองที่เน้นหุ้นบิ๊กแคป, กองที่เน้นหาโอกาสกับหุ้นเล็ก เป็นต้น
อย่างวันนี้เราจึงได้แบ่งกลุ่มกองทุน SSF Extra ออกมาเป็น 5 สูตรลงทุน มาให้ได้ลองเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะกับตัวเองกัน
1. สูตรมั่นคงโตตามดัชนี (Passive Fund)
กลุ่มนี้จะเป็น SSFX ที่มีนโยบายลงทุนแบบ Passive Fund โดยคาดหวังผลตอบแทนใกล้เคียงกับตลาด หรือดัชนีที่ใช้อ้างอิง เช่น SET50, SET100
ข้อดีของสูตรลงทุนแบบนี้ คือ ถ้าตลาดขึ้น กองทุนเราก็ดีไปด้วย และเรื่องของค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่ากองทุนแบบ Active นั่นเอง อีกทั้ง ยังเหมาะกับคนที่มีเป้าหมายลงทุนระยะยาว
2. สูตรหุ้น SET-mai มากกว่า 80% (Active Fund)
เป็น Active Fund กองทุนเชิงรุกที่เน้นชนะตลาด ด้วยการคัดเลือกหุ้นที่เหมาะสม หรือจับจังหวะซื้อขายให้ถูกต้อง
โดยกลุ่มนี้มีกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นมากกกว่า 80% ซึ่งชัดเจนมาเน้นให้น้ำหนักสร้างผลตอบแทนกับหุ้นเต็มที
3. สูตรหุ้นมากกว่า 65% (Active Fund)
เป็น Active Fund เช่นกัน แต่มีการลดสัดส่วนลงทุนในหุ้นอยู่ที่มากกว่า 65% และกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น ตราสารหนี้ อสังหาฯ ทองคำ สินทรัพย์ต่างประเทศ ฯลฯ
สำหรับตอบโจทย์คนที่ไม่ต้องการฝากความหวังไว้กับตลาดหุ้นมากจนเกินไป เพราะเวลาที่หุ้นตก ก็ยังมีสินทรัพย์อื่นๆ มาช่วยพยุงไว้บ้าง
4. สูตรหุ้น 70% ตราสารหนี้ 30% (Active Fund)
มีลักษณะคล้ายกับกองทุนผสม โดยมีหุ้นเป็นสินทรัพย์ความเสี่ยงสูง และตราสารหนี้ เป็นสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ มาคอยบาลานซ์พอร์ตให้สมดุลขึ้น
ซึ่งตามธรรมชาติแล้ว กองทุนกลุ่มนี้จึงมีความเสี่ยงไม่สูงเท่า SSFX กลุ่มอื่นๆ เพราะมีสัดส่วนตราสารหนี้ที่เยอะนั่นเอง
5. สูตร ESG โตอย่างยั่งยืน (Passive Fund)
Passive Fund ที่มีเป็นธีมคัดเลือกหุ้นที่ทำธุรกิจแบบ ESG ซึ่งให้ความสำคัญกับ 3 เรื่อง ได้แก่ Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล)
เพราะมีความเชื่อว่าบริษัทที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ จะนำมาซึ่งการเติบโตที่ดีในระยะยาว และลดความเสี่ยงทางการลงทุนไปในตัวด้วย
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
อ่านอะไรต่อดี…