7 เรื่องเงินๆ ทองๆ ที่คนโสดมักเข้าใจผิด
บทความโดย tanhnanchya
ไหนใครอยากเป็นโสดยกมือขึ้น? ทุกวันนี้กระแสการโสดมาแรงมาก หลายคนโหยหาความโสด เพราะมีอิสระ ไม่ต้องผูกมัด แถมไม่ต้องรับมือกับค่าใช้จ่ายเรื่องครอบครัว
ด้วยข้อดีเหล่านี้ ชาวโสดอาจจะรู้สึกว่าแบบนี้ก็มีเงินเหลือเยอะเลยละสิ! ไม่ต้องวางแผนการเงินหรอก ในเมื่อเรามันตัวคนเดียว อยู่คนเดียว ไปไหนทำอะไรคนเดียว ค่าใช้จ่ายไม่น่าจะเยอะอะไร จริงมั้ย?
ความจริงแล้ว ไม่ว่าจะเราโสดหรือมีครอบครัว ก็ต้องวางแผนการเงินกันทั้งนั้นแหละ เพราะการเป็นโสดก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะหลุดพ้นภาระเรื่องการเงิน อันที่จริงแล้ว เรายังต้องคิดเรื่องเงินมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
วันนี้เรารวบรวม 7 เรื่องเงินๆ ทองๆ ที่คนโสดมักเข้าใจผิดมาเล่าสู่กันฟัง ความจริงแล้วโลกนี้มันโหดร้ายยิ่งนัก
1.แหล่งรายได้
สิ่งที่คิด: อยู่คนเดียว พึ่งแค่เงินจากงานประจำก็พอ
ความจริง: อาจจะพอ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องหยุดแค่นี้
มันไม่ผิดหรอกหากเราจะรู้สึกพอใจกับเงินเดือนของเรา รู้สึกว่าเงินแค่นี้ก็พอใช้แล้ว อยู่คนเดียวนี่นา สบายมาก! แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่า เฮ้ย มันต้องมีวิธีเพิ่มรายได้ทางอื่นบ้างสิ (นอกจากย้ายงาน) แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว เพราะนอกจากงานประจำ หากใครมีงานอดิเรกที่ชื่นชอบก็สามารถลองหางาน Part-Time ทำเพื่อหารายได้เสริมเพิ่มเข้ามาได้ ถ้าโชคดี ไม่แน่ว่าวันหนึ่งรายได้จากงานเสริมอาจ จะพุ่งแซงรายได้จากงานประจำก็เป็นได้ ยิ่งยุคสมัยนี้มีเทคโนโลยีมาคอยช่วยเหลือ ไม่ว่าใครก็สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ในการทำธุรกิจหรือทำตัวเองให้เป็นที่รู้จักได้ ลองดูค่ะ ใครมีดีอะไรก็งัดมาโชว์ให้โลกเห็นกันไปเลย
อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มรายได้เราทางอ้อมคือการไปฝึกทักษะใหม่ๆ หาความรู้เพิ่ม วิธีนี้อาจจะไม่ได้เพิ่มรายได้ให้เราแบบปุบปับทันใด แต่เราจะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนจนกว่าจะชำนาญ เมื่อนั้นแหละ ทักษะนี้ก็จะกลายเป็นสินทรัพย์ของเรา ที่สามารถนำไปสร้างรายได้เพิ่มได้อีก
2.การควบคุมเงิน
สิ่งที่คิด: อยู่คนเดียว ควบคุมเรื่องเงินได้ทุกอย่าง
ความจริง: เหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นได้เสมอ
แม้เราจะอยู่คนเดียว ตัดสินใจหลายๆ เรื่องคนเดียว ไม่ต้องรอถามใคร แต่อย่าลืมว่าโลกนี้ยังมีพลังอำนาจลึกลับที่อยู่เหนือการควบคุมของเรา จู่ๆ โชคชะตานึกอยากให้รถเราเสีย ตกงาน เจอวิกฤตเศรษฐกิจ ป่วยหนัก แฟนทิ้ง (เดี๋ยวๆ ไม่ใช่ละ ก็บอกแล้วว่าจะเป็นโสด) ก็ย่อมได้ทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ เราควรมีเงินฉุกเฉินเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น แนะนำว่าให้เตรียมเงินไว้ประมาณ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพราะถ้าเรามีเงินสำรอง เราก็ยังสามารถใช้เงินส่วนนี้จัดการค่าใช้จ่ายไม่คาดฝัน หรือ พยุงชีวิตในช่วงที่ไม่มีรายได้ได้ ถือว่าเป็นการต่อลมหายใจให้ตัวเองเพื่อที่จะได้เริ่มตั้งหลักใหม่อีกครั้ง
3.เงินฝาก
สิ่งที่คิด: อยู่คนเดียว ฝากเงินไว้ในธนาคารเฉยๆ ก็พอ
ความจริง: เงินที่เก็บไว้ในธนาคารเฉยๆ โดนเงินเฟ้อกัดกินจนมูลค่าลดลงไปแล้วจ้า
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 0.50% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของปี 2019 อยู่ที่ 0.7% สมมติว่าอัตรานี้คงที่ไปอีกเป็นเวลาหนึ่งปี นั่นหมายความว่าหากเราฝากเงิน 10,000 บาทปีนี้ ปีหน้าเราจะมีเงินทั้งหมด 10,050 บาท แต่สินค้าที่ปีนี้ราคา 10,000 บาทจะเพิ่มราคาเป็น 10,070 บาทในปีหน้า แสดงให้เห็นว่าอำนาจซื้อของเรามีน้อยลง เพราะมูลค่าเงินลดลงนั่นเอง
เอาละสิ ฟังดูน่ากลัวแล้ว หากไม่อยากปล่อยเงินแช่ไว้เฉยๆ แบบนี้ ลองแบ่งเงินจากการฝากธนาคารไว้เฉยๆ ไปลงทุนบ้าง ใครที่เพิ่งเริ่มต้น อาจจะลองซื้อ RMF หรือ SSF ที่มาแทน LTF ปีนี้ กันก่อน เพราะนอกจากจะเป็นการสร้างวินัยในการออมเงินแล้ว เรายังได้ประโยชน์จากสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษี และยังถือเป็นการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้เราได้ด้วย
ใครที่สนใจอยากรู้เกี่ยวกับ RMF และ SSF เพิ่ม ลองอ่านบทความนี้ดู กองทุน SSF คลอดแล้ว! ต่างจาก LTF อย่างไร? RMF ปรับเกณฑ์ใหม่ ไม่มีขั้นต่ำ!!
ส่วนใครที่เริ่มคุ้นเคยกับการลงทุนแล้ว ก็สามารถแบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายขึ้น อย่าง กองทุนรวม หรือ หุ้น ก็ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่เรารับได้และสไตล์การลงทุนของแต่ละคนเลย
4.ที่พึ่งตอนแก่
สิ่งที่คิด: อยู่คนเดียวตอนแก่ ไปอาศัยอยู่กับญาติ/พี่/น้อง ก็ได้
ความจริง: ญาติพี่น้องไม่ได้ใจดีเสมอไป
ข้อเสียของคนโสดอย่างหนึ่งคือเมื่อแก่ตัวไปแล้ว ไม่มีลูกหลานคอยดูแลเนี่ยแหละ บางคนอาจจะคิดว่า อ๋อ งั้นฉันไปอยู่บ้านลูกพี่ลูกน้องละกัน บ้านน้องบ้านพี่ก็ได้ เดี๋ยวๆๆ ตื่น! ไม่ใช่ญาติๆ ทุกคนจะต้อนรับเราให้เป็นส่วนหนึ่งของบ้านเขา เพราะพวกเขาอาจจะมีครอบครัวของตัวเอง ในกรณีที่ญาติ/เพื่อนอยู่คนเดียว เราคิดจริงๆ เหรอว่าเขาจะอยากดูแลรับผิดชอบชีวิตเรา ในเมื่อเรายังอยากเป็นโสด ยังไม่อยากจะมีภาระรับผิดชอบคนอื่นเลย (แต่หากเจอใครที่พร้อมจะดูแลซึ่งกันและกัน ถือว่าโชคดีมาก) ส่วนพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่น่ะเหรอ ลืมไปได้เลย เพราะพวกเขาไม่ได้อยู่กับเราตลอดไปนะ
ไม่ได้การละ ถ้าอยากจะเป็นโสด แม้จะแก่แต่เราต้องยืนได้ด้วยแข้งขาตัวเอง แต่ๆๆ เราไม่จำเป็นต้องอยู่คนเดียว (งงมั้ย) เพราะถ้าอายุมากๆ แล้วต้องอยู่คนเดียว เราจะทำยังไงหากเกิดเหตุฉุกเฉิน? หากป่วยกะทันหัน? สิ่งที่คนโสดควรเตรียมวางแผนไว้เลยคือที่อยู่อาศัยและผู้ดูแลยามแก่เฒ่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะมาพร้อมค่าใช้จ่ายเช่นกัน (เห็นมั้ยว่าการเป็นโสดไม่ได้ลดภาระการใช้เงินเลย) การบริการเหล่านี้แบ่งเป็นระดับด้วยนะ กล่าวคือ หากอยากอยู่ในสถานที่ดีๆ มีผู้ดูแลพร้อม มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ก็ต้องจ่ายแพงกันหน่อย
สำหรับใครที่อยากจะเห็นภาพรวมคร่าวๆ ว่าเราต้องใช้เงินเท่าไรสำหรับบริการเหล่านี้ เราได้ลองคำนวณค่าใช้จ่ายและจำนวนเงินลงทุนที่ต้องใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ในบทความนี้ เกษียณโสดแบบไม่โดดเดี่ยว ต้องเตรียมเงินไว้เท่าไร?
5.ค่าใช้จ่ายคนอื่น
สิ่งที่คิด: อยู่คนเดียว ไม่มีค่าใช้จ่ายครอบครัว
ความจริง: เรายังมีพ่อแม่ญาติพี่น้องให้ดูแล
แม้เราจะไม่มีครอบครัวใหม่ แต่เราก็มีครอบครัวเดิมของเราให้ดูแล ที่ชัดเจนเลยคือคุณพ่อคุณแม่ที่เราควรจะตอบแทนบุญคุณ และแม้ว่าญาติพี่น้องจากข้อข้างต้นจะไม่ไยดีเราถึงขนาดให้เราไปพักอาศัยอยู่ด้วย แต่ในหลายๆ กรณีพวกเขาก็ยังถือว่าเป็นญาติพี่น้องที่มีสัมพันธ์ฉันท์มิตรอันดีงามกับเรา เห็นกันมาตั้งแต่ยังเด็กยังเล็ก จึงอาจจะมีโอกาสที่เราต้องช่วยเหลือเรื่องเงินบ้างเป็นครั้งคราว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างการแจกอั่งเปาให้หลานๆ จนไปถึงการช่วยออกค่าใช้จ่ายหากใครป่วย มันแสดงให้เห็นถึงน้ำใจและความเอาใจใส่น่ะ เห็นมั้ยว่าการเป็นโสดไม่ได้หมายความว่าเราอยู่คนเดียวโดยแท้จริง
6.ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
สิ่งที่คิด: อยู่คนเดียว ค่าใช้จ่ายส่วนตัวไม่เยอะ
ความจริง: เงินหมดไปกับค่าสังสรรค์และกิจกรรมต่างๆ
เพราะคนโสดไม่มีภาระหน้าที่ที่จะต้องดูแลครอบครัว และมีแนวโน้มที่จะเหงาได้ง่าย คนโสดจึงมีโอกาสที่จะใช้เงินเพื่อดลบันดาลความสุขสบายและความบันเทิงให้ตัวเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมเหล่านี้ก็ไม่ได้น้อยๆ เลย ตัวอย่างเช่น บางคนอาจจะชอบไปเที่ยว ชอบไปทานร้านอาหารดีๆ ชอบไปปาร์ตี้กับเพื่อน ชอบไปดูคอนเสิร์ต ไปๆ มาๆ หากใช้เงินไปกับการสังสรรค์เยอะ เผลอๆ ค่าใช้จ่ายสามารถพุ่งสูงไม่แพ้คนมีครอบครัวเลยทีเดียว
7.จัดสรรเงินเก็บ
สิ่งที่คิด: แค่เก็บเงินก็พอ ไม่ต้องจัดสรรเงินเก็บหรอก
ความจริง: หากไม่จัดสรรเงินเก็บให้ดี แผนการเงินก็พังได้
บางคนอาจจะคิดว่า แค่เก็บก่อนใช้ หรือ ใช้เงินเหลือ ก็โอเคแล้ว แต่จริงๆ แล้วการวางแผนการเงินที่ดีมีสิ่งที่ต้องทำมากกว่านั้น หากเราใช้/เก็บเงินโดยที่ไม่ได้จัดสรรให้เข้าที่เข้าทาง เราจะไม่เห็นภาพรวมของสถานะการเงินสำหรับแต่ละเป้าหมายของเราเลย
ดังนั้น สิ่งที่คนโสดควรทำคือวางแผนแบ่งเงินให้ดีๆ หลักการหนึ่งที่สามารถนำมาปรับใช้ได้คือ “เหยือก 6 ใบ” ที่จะช่วยให้เราแบ่งเงินหนึ่งก้อนออกเป็นหลายๆ ก้อน เพื่อจุดประสงค์ที่ต่างกันไป ใครอยากอ่านรายละเอียด สามารถดูได้ที่บทความนี้เลย SIX JARS คือ อะไร?
สุดท้ายแล้ว อย่าลืมว่าในเมื่อเราคิดจะอยู่คนเดียว เราก็ต้องยอมรับให้ได้ด้วยว่าเราจะต้องหาเงินคนเดียว
ไม่มีใครมาช่วยหาเงินเพิ่มเหมือนคนมีครอบครัว ที่ถึงแม้ว่าจะมีภาระค่าใช้จ่าย แต่พวกเขาก็สามารถช่วยกันหาเงินได้ การจะเป็นโสดได้อย่างสบายใจไร้กังวลนั้น เราต้องมั่นใจว่าสถานะการเงินของเราเข้มแข็งพอ เพราะมันคงจะไม่ดีเท่าไรหากเรายังต้องพึ่งพาแรงสนับสนุนด้านเงินจากคนอื่น ชีวิตโสดของเราคงจะไม่มั่นคงเป็นแน่แท้ ดังนั้น เราควรสร้างฐานการเงินของเราให้แข็งแกร่ง พร้อมสู้รบกับทุกสถานการณ์ที่จะบุกมาในชีวิตโสดของเรา
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกๆ ท่านที่อยากจะเป็นโสด เริ่มมีไอเดียวางแผนการเงินกันบ้างนะ เราเชื่อว่าหากชาวโสดเตรียมตัวด้านการเงินให้พร้อม ก็จะสามารถใช้ชีวิตโสดได้อย่างสุขสบาย ไม่ต้องง้อใครได้ เมื่อนั้นแหละ อิสรภาพอันหอมหวานของความเป็นโสดก็จะเป็นจริง ?
tanhnanchya
ข้อมูลอ้างอิง https://www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/2020/Pages/n0163.aspx
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb