ลงทุนกัน | มัดรวมกองทุน SSF และ RMF ผลงานเด่นปี 2024
#ลงทุนกัน | ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ การวางแผนการเงินที่ชาญฉลาดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม หนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องคือการลงทุนในกองทุน SSF และ RMF ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างวินัยการออมระยะยาวแล้ว ยังมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่น่าดึงดูดอีกด้วย
แต่ท่ามกลางกองทุนรวมที่มีให้เลือกลงทุนมากมาย การคัดสรรกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนดีและเหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของเราจึงเป็นความท้าทายที่นักลงทุนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องผูกพันการลงทุนในระยะยาวตามเงื่อนไขของกองทุน
เราจึงมัดรวมกองทุน SSF และ RMF ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น ผ่านการคัดกรองด้วยปัจจัยสำคัญทั้งผลตอบแทน ความเสี่ยง และค่าธรรมเนียม พร้อมแนะนำกลยุทธ์การจัดพอร์ตการลงทุนที่จะช่วยให้คุณได้รับทั้งผลตอบแทนที่น่าพอใจและสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุด
5 อันดับกองทุน SSF ผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี
1. KKP TECH-H-SSF
ระดับความเสี่ยง: 7 – กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม
เงินลงทุนขั้นต่ำ: 1,000 บาท
ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2024 (ข้อมูล ณ วันที่ 25/10/24): +31.21%
กองทุนเปิดเคเคพี EXPANDED TECH – HEDGED ชนิดเพื่อการออม (KKP TECH-H-SSF) มีนโยบายลงทุนใน iShares Expanded Tech Sector ETF ด้วยกลยุทธ์การลงทุนเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลการดําเนินงานของดัชนี S&P North American Expanded Technology Sector Index ซึ่งใช้อ้างอิงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในประเทศสหรัฐฯ รวมถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีจากกลุ่มบริการสื่อสาร (Communication Service) และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary)ในประเทศสหรัฐฯ และแคนาดา
2. SCBGOLDH-SSF (F Pick)
ระดับความเสี่ยง: 8 – กองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
เงินลงทุนขั้นต่ำ: 1,000 บาท
ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2024 (ข้อมูล ณ วันที่ 25/10/24): +24.50%
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ THB เฮดจ์ (ชนิดเพื่อการออม) (SCBGOLDH-SSF) มีนโยบายลงทุนใน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็น ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมด้วยนโยบายการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ส่งผลให้ NAV ของกองทุนเคลื่อนไหวใกล้เคียงราคาทองคำในตลาดโลก ตามนโยบายการบริหารแบบ Passive
3. KKP NDQ100-H-SSF
ระดับความเสี่ยง: 6 – กองทุนรวมตราสารทุน
เงินลงทุนขั้นต่ำ: 1,000 บาท
ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2024 (ข้อมูล ณ วันที่ 25/10/24): +20.14%
กองทุนเปิดเคเคพี NDQ100 – HEDGED ชนิดเพื่อการออม (KKP NDQ100-H-SSF ) มีนโยบายลงทุนใน Invesco NASDAQ 100 ETF เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลการดําเนินงานของดัชนี NASDAQ-100 ซึ่งประกอบด้วยหุ้นของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด และไม่ใช่สถาบันการเงิน จํานวน 100 บริษัท ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ทั้งในและนอกสหรัฐอเมริกา
4. TLUSNDQ-H-SSF
ระดับความเสี่ยง: 6 – กองทุนรวมตราสารทุน
เงินลงทุนขั้นต่ำ: 1,000 บาท
ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2024 (ข้อมูล ณ วันที่ 25/10/24): +19.95%
กองทุนเปิดทาลิส หุ้นยูเอส เอ็นดีคิว-เฮดจ์ ชนิดเพื่อการออม (TLUSNDQ-H-SSF) มีนโยบายลงทุนใน Invesco NASDAQ 100 ETF เช่นกัน โดยส่วนใหญ่จะลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 100 อันดับแรกที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี NASDAQ-100
5. KKP SEMICON-H-SSF
ระดับความเสี่ยง: 7 – กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม
เงินลงทุนขั้นต่ำ: 1,000 บาท
ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2024 (ข้อมูล ณ วันที่ 25/10/24): +19.56%
กองทุนเปิดเคเคพี เซมิคอนดักเตอร์ เฮดจ์ ชนิดเพื่อการออม (KKP SEMICON-H-SSF) มีนโยบายลงทุนใน iShares Semiconductor ETF โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี ICE Semiconductor Index ซึ่งเป็นดัชนีที่ใช้วัดผลการดำเนินงานของบริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
5 อันดับกองทุน RMF ผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี
1. KKP TECH RMF-H
ระดับความเสี่ยง: 7 – กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม
เงินลงทุนขั้นต่ำ: 1,000 บาท
ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2024 (ข้อมูล ณ วันที่ 25/10/24): +31.16%
กองทุนเปิดเคเคพี EXPANDED TECH เพื่อการเลี้ยงชีพ – HEDGED (KKP TECH RMF-H) มีนโยบายลงทุนใน iShares Expanded Tech Sector ETF ด้วยกลยุทธ์การลงทุนเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลการดําเนินงานของดัชนี S&P North American Expanded Technology Sector Index ซึ่งใช้อ้างอิงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในประเทศสหรัฐฯ รวมถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีจากกลุ่มบริการสื่อสาร (Communication Service) และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary)ในประเทศสหรัฐฯ และแคนาดา
2. BGOLDRMF (F Pick)
ระดับความเสี่ยง: 8 – กองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
เงินลงทุนขั้นต่ำ: 500 บาท
ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2024 (ข้อมูล ณ วันที่ 25/10/24): +28.15%
กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (BGOLDRMF) มีนโยบายลงทุนใน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็น ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก กองทุนหลักเน้นลงทุนในทองคำแท่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนหลักหักค่าธรรมเนียมให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ
3. ES-GOLDRMF-UH
ระดับความเสี่ยง: 8 – กองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
เงินลงทุนขั้นต่ำ: 1 บาท
ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2024 (ข้อมูล ณ วันที่ 25/10/24): +27.73%
กองทุนเปิดอีสท์สปริง ทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ-UH (ES-GOLDRMF-UH) มีนโยบายลงทุนทองคำแท่งที่มีมาตรฐานโดยตรง (Physical Gold หรือ Gold Bullion) และลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก โดยมุ่งหวังให้ได้รับผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีทองคำ ทั้งนี้กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
4. B-USALPHARMF (F Pick)
ระดับความเสี่ยง: 6 – กองทุนรวมตราสารทุน
เงินลงทุนขั้นต่ำ: 500 บาท
ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2024 (ข้อมูล ณ วันที่ 25/10/24): +23.70%
กองทุนเปิดบัวหลวงยูเอสอัลฟ่าเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-USALPHARMF) มีนโยบายลงทุนใน JPMorgan Funds – US Growth Fund, Class JPM US Growth I (acc) – USD ซึ่งเน้นกลยุทธ์ค้นหาหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโต (Growth Style) ของบริษัทที่จัดตั้ง หรือทำธุรกิจหลักในสหรัฐอเมริกา