หลังวิกฤต Subprime จบ…หุ้นกลุ่มไหนให้ผลตอบแทนดีที่สุด โดย InvestDiary แบ่งปันความรู้การลงทุน
วิกฤต Covid-19 ถือเป็นวิกฤตที่รุนแรงครั้งแรกในชีวิตการลงทุนของผม ถึงวิกฤตนี้จะน่ากลัวและสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล แต่ก็เป็นวิกฤตที่ผมรอคอยมาอย่างยาวนาน เพราะนี่ถือเป็นโอกาสทองที่จะทำให้ผมสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าปกติ
ผมถือเงินสดไว้ส่วนหนึ่งของพอร์ตเสมอในช่วงก่อนเกิดวิกฤตครั้งนี้ เนื่องจากผมเชื่อว่าระยะเวลาได้ผ่านมายาวนานอย่างมากจากวิกฤตใหญ่ครั้งก่อนเมื่อ 12 ปีที่แล้ว
รวมกับการที่ตลาดหุ้นค่อนข้างแพง การหาโอกาสการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนเริ่มลดน้อยลง
แม้แต่โรงไฟฟ้าที่โดยปกติแล้วไม่ใช่ธุรกิจที่ดีมากนักและควรมี Premium ต่ำ กลับสามารถเทรดกันที่ราคาสูง PE 50 – 100 เท่า ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมาก
นอกจากผมจะถือเงินสดไว้เผื่อแล้ว การใช้ชีวิตของผมก็ไม่มีการสร้างหนี้สินแม้แต่น้อย กินอยู่อย่างประหยัดและไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแทบทั้งสิ้น
เพราะผมนึกไว้เสมอว่า “เมื่อวิกฤตมาผมต้องมีความพร้อม 100%”
และในที่สุดวิกฤต Covid-19 ก็ได้เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2020
แต่การเตรียมตัวที่ผ่านมาจะไม่มีค่าเลยหากไม่มีความรู้มากเพียงพอ และไม่สามารถหาโอกาสในการลงทุนช่วงวิกฤตครั้งนี้ได้
สิ่งที่ควรอยากรู้มากที่สุดคือ “หุ้นอะไรจะให้ผลตอบแทนดีที่สุดหลังวิกฤต Covid-19?”
การจะตอบคำถามนี้เราอาจจะต้องย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ยุควิกฤต Subprime กันก่อน
ตลาดหุ้นประเทศไทยในช่วงปี 2009 – 2010 ถือเป็นปีที่ให้ผลตอบแทนสูงมากแก่นักลงทุนที่กล้าเข้าไปลงทุนหลังเกิดวิกฤต Subprime ซึ่งหากนักลงทุนมองย้อนกลับไป อาจจะเห็นว่ามีหุ้นอยู่กลุ่มหนึ่งที่สามารถสร้างผลตอบแทนสูงกว่ากลุ่มอื่นอย่างมาก
หลายๆ บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนมากกว่า 100% ขึ้นไปภายในปีเดียวเท่านั้นหลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัว (ข้อมูลจาก Jittahttps://library.jitta.com/th/ranking)
กลุ่มอุตสาหกรรมที่ว่านั้นก็คือกลุ่ม “ผู้พัฒนาอสังหาฯ”
ไม่ว่าจะเป็นบริษัทอย่าง LH, SPALI, QH, SIRI, AP, LPN และอีกหลายๆ บริษัท
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดผู้พัฒนาอสังหาฯถึงเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนได้ดีอย่างมากหลังเกิดวิกฤต Subprime
คำถามคือทำไมถึงเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ ?
ผมได้ลองขอข้อมูลจาก Jitta ย้อนหลังไปเกือบ 20 ปี เพื่อดูข้อมูลเบื้องต้นเช่นรายได้และกำไรของบริษัทเพื่อเข้าใจสถานการณ์
จากรูปด้านบน จะพบว่าผู้พัฒนาอสังหาฯ นั้นเติบโตมาโดยตลอดหลังวิกฤตต้มยำกุ้งอย่างต่อเนื่องจนมาถึงสูงสุดเมื่อประมาณปี 2016
วิกฤต Subprime ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีผลมากนักกับเศรษฐกิจของประเทศไทย ตลาดอสังหาฯในประเทศไทยจึงแทบจะไม่ได้รับผลกระทบ
และเนื่องจากการเติบโตของผู้พัฒนาอสังหาฯอยู่ในระดับที่สูงอย่างต่อเนื่อง วิกฤตตลาดหุ้นไทยในปี 2008 จึงถือเป็นปีทองอย่างแท้จริงในการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มนี้
การที่ราคาหุ้นตกลงอย่างมากในปี 2008 นั้นเป็นโอกาสเด้งแรกสำหรับหุ้นอสังหาฯ
ส่วนเด้งที่สองคือ “ดอกเบี้ย”
การลดลงของดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2008 – 2009 ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาฯสามารถกู้ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง ส่วนผู้ซื้อก็จ่ายดอกเบี้ยได้น้อยลงอีกด้วย
เรามาลองดูผลตอบแทนหุ้นกลุ่มอสังหาฯในปี 2009
- AP 141%
- PS (PSH ในปัจจุบัน) 306%
- SPALI 216%
- LPN 225%
- LALIN 123%
- NOBLE 145%
- SC 96%
- QH 184%
- SIRI 150%
โดยเฉลี่ยถือว่าเป็นผลตอบแทนที่มหาศาลภายในระยะเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น
สรุป หุ้นอะไรจะให้ผลตอบแทนดีที่สุดหลังวิกฤต Covid-19 ?
คงไม่ใช่หุ้นกลุ่มอสังหาฯ อย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจุบันกำลังซื้อของประชากรค่อนข้างจำกัดไม่เหมือนช่วงหลัง Subprime หากย้อนกลับไปดูกราฟจะพบว่ายอดขายของบริษัทอสังหาฯจะขึ้นไปทำจุดสูงสุดราวปี 2016 ชี้ให้เห็นว่าอสังหาฯ คงจะถึงจุดอิ่มตัวระดับหนึ่งแล้ว
และนอกจากนี้วิกฤต Covid-19 ก็ยังส่งผลกระทบกับกำลังซื้อของคนไทยอย่างชัดเจน
ถึงแม้จะยังไม่มีคำตอบอย่างชัดเจนว่าหุ้นกลุ่มไหนจะให้ผลตอบแทนดีที่สุดหลังวิกฤต Covid-19 แต่อย่างน้อยเรามีคำใบ้หนึ่งที่น่าจะเป็นคำตอบให้เรา
“หุ้นที่ดีอยู่แล้วก่อนวิกฤต ที่มีโอกาสกลับมาดีเหมือนเดิม (หรือดีกว่าเดิม) เมื่อวิกฤตผ่านพ้นไป”
หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์แก่นักลงทุน และขอบคุณ Jitta ที่ดึงข้อมูลให้แบบกรณีพิเศษครับ
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
อ่านอะไรต่อดี…