สอนวิธี “ยื่นภาษีออนไลน์” ฉบับวัยทำงาน ประจำปีภาษี 67 ทำตามได้ง่ายนิดเดียว
GDP คืออะไร ? | รู้ไปทำไม แล้วจะนำมาปรับใช้กับการลงทุนได้ยังไงบ้าง – FinSpace
GDP (จีดีพี) มักเป็นคำที่ถูกอ้างอิงถึงบ่อยๆ ในข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการลงทุน
แต่เคยสงสัยไหมว่า GDP คืออะไร รู้ไปทำไม แล้วจะนำมาปรับใช้กับการลงทุนได้ยังไงบ้าง วันนี้เราสรุปมาให้แล้วแบบง่ายๆ
GDP คืออะไร ย่อมากจากอะไร ?
GDP ย่อมาจาก Gross Domestic Product
GDP หมายถึง ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ โดยคิดจากมูลค่าสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตในประเทศในช่วงเวลานั้นๆ
หรือถ้าจะสรุปสั้นๆ ก็คือ จีดีพี เป็นมูลค่าเศรษฐกิจทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศ เช่น
– คนออกไปจับจ่ายใช้สอย
– ร้านอาหารจ่ายเงินจ้างพนักงาน
– บริษัทเอกชนลงทุนซื้อเครื่องจักร
– นักท่องเที่ยวมาใช้เงินในประเทศไทย
ฯลฯ
วิธีวัดมูลค่า ?
GDP สูตร การคิดตัวเลขจะมาจาก 4 เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ โดยมีสูตรคำนวณง่ายๆ ดังนี้
C : Consumption
การจับจ่ายใช้สอยทั่วไปของประชาชนและเอกชน เช่น ซื้ออาหาร ช้อปปิ้ง จ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ
I : Investment
การลงทุนของภาคเอกชน เช่น การก่อสร้างสำนักงาน ซื้อเครื่องจักร ซื้อซอฟแวร
G : Government
การใช้จ่ายทั้งหมดของรัฐบาล เช่น เงินเดือนข้าราชการ สร้างถนน ซื้อรถถัง-เรือดำน้ำ
X-M : Net Export
มูลค่าการส่งออกสินค้า ลบด้วยมูลค่าการนำเข้าสินค้า
จะเห็นว่า จีดีพี จะเพิ่มหรือลด ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของสมการทุกตัว ซึ่งแสดงถึงภาพรวมทางเศรษฐกิจทุกส่วนของประเทศด้วย
ดังนั้น ยิ่ง จีดีพี เป็นบวก ก็แปลว่าเศรษฐกิจมีการเติบโต มีเม็ดเงินจำนวนมากหมุนเวียนในระบบ ผู้คนกินดีอยู่ดีขึ้น
อะไรที่ไม่ถูกนับรวมบ้าง
1. รายได้ที่เกิดนอกประเทศ
GDP ประเทศไทย จะนับแค่รายได้ที่เกิดขึ้นในไทยเท่านั้น ไม่ว่าจะมาจากคนชาติไหนก็ตาม
หรือถ้าคนไทยไปมีรายได้ในญี่ปุ่น มูลค่าตรงนั้น ก็จะถูกนับเป็น GDP ของประเทศญี่ปุุ่น
อย่างไรก็ดี มีอีกดัชนีที่เรียกว่า GNP : Gross National Product ที่จะนับเฉพาะรายได้ของคนในประเทศตัวเอง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกก็ตาม
2. การซื้อสินค้ามือสอง
เพราะไม่ได้เป็นการเพิ่มผลผลิตปัจจุบัน และจะเป็นการนับมูลค่าซ้ำซ้อน
3. การซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ เช่น หุ้น กองทุน ตราสารหนี้
4. สินค้าผิดกฎหมาย สินค้าเลี่ยงภาษี
สำคัญยังไงกับการลงทุน ?
อย่างที่ทราบกันว่า จีดีพี เป็นการบ่งบอกภาวะเศรษฐกิจของประเทศในช่วงนั้นว่าเป็นยังไง ? เติบโต หยุดชะงัก ชะลอตัว หรือกำลังฟื้นกลับมา
เราจึงสามารถนำข้อมูลตรงนี้ ใช้วิเคราะห์การลงทุนในภาพใหญ่ได้ นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่แตกต่างกันในแต่ละช่วง ยังส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ต่างๆ อีกด้วย เช่น
(1) ระยะฟื้นตัว (Recovery)
วิธีสังเกต : จีดีพี ปรับเพิ่มขึ้น 2 ไตรมาสติดต่อกัน
ลงทุนอะไรดี : หุ้น
(2) ระยะเฟื่องฟู (Peak)
วิธีสังเกต : จีดีพี มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ลงทุนอะไรดี : ทองคำ
(3) ระยะถดถอย (Recession)
วิธีสังเกต : จีดีพี ติดลบต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 ไตรมาส
ลงทุนอะไรดี : เงินฝาก
(4) ระยะตกต่ำ (Trough)
วิธีสังเกต : จีดีพี หดตัว จนทำจุดต่ำสุดใหม่ และมีอัตราการว่างงานสูงสุด
ลงทุนอะไรดี : ตราสารหนี้
วัฎจักรเศรษฐกิจมีผลอย่างมากต่อการลงทุน หากเรารู้ว่าปัจจุบัน อยู่ในช่วงไหนของวัฏจักรเศรษฐกิจ ก็จะช่วยให้การเลือกสินทรัพย์ลงทุนได้เหมาะสม และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนดีขึ้น
อ้างอิงข้อมูลจาก https://www.set.or.th/set/education/html.do?name=decode_search_invest_9&innerMenuId=18
GDP ประเทศไทย 2563 เป็นยังไงบ้าง
ธนาคารแห่งประเทศไทย ประเมิน GDP ล่าสุด ปี 2563 คาดว่าจะติดลบ 8.1%
ซึ่งถือว่าเป็นการหดตัวครั้งใหญ่สุดในประวัติการณ์ แย่กว่าช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2541 ที่ จีดีพี ไทย หดตัวราว 7.6%
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
อ่านอะไรต่อดี…