เปิดกลยุทธ์อาลีบาบา หลังทุบสถิติ 11.11 อีกครั้ง !! AKN x FinSpace
11.11 มหกรรมช้อปปิ้งระดับโลกที่ผ่านมา วันที่ทุกคนมีโอกาสจะได้ซื้อของในราคาถูกที่สุดในรอบปีผ่านทางออนไลน์ โดยสินค้าเกือบทุกประเภท สามารถหาซื้อได้ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบา
ซึ่งพิเศษมากขึ้นในปีนี้ เพราะเป็นโอกาสครบรอบ 12 ปีที่อาลีบาบาจัดมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 นี้ขึ้นมา ซึ่งมีความพิเศษตามวัฒนธรรมสำหรับคนจีน และคนไทยเชื้อสายจีน คือการครบรอบ 12 ปีนั้นหมายถึงการครบรอบปีนักษัตรและมักจะมาพร้อมกับโชคลาภนั่นเอง
ปีนี้อาลีบาบาจึงขอจัดหนัก โดยใช้เวลาเตรียมงานล่วงหน้าถึง 4 เดือน และเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมที่จัดขึ้นเพียง 24 ชั่วโมง เป็นแคมเปญช้อปปิ้งต่อเนื่องนาน 11 วัน พร้อมทั้งเพิ่มช่วงเวลาช้อปปิ้งเป็น 2 ช่วงเวลาด้วยกัน
ช่วงแรกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน ส่วนช่วงที่ 2 จัดขึ้นในวันงานจริงวันที่ 11 พฤศจิกายน ทำให้ร้านค้ามีเวลาขายมากขึ้น และช่วยให้ผู้บริโภคมีเวลาสำหรับเลือกใช้ส่วนลด มีเวลาตัดสินใจเพิ่มขึ้น สุดท้ายคือช่วยแบ่งเบาด้านระบบการจัดส่งโลจิสติกส์ให้ไม่แน่นจนเกินไปด้วย
คราวนี้เรามาดูกันว่า งาน 11.11 2020 อาลีบาบาได้สร้างสถิติอะไรให้โลกจดจำไว้บ้าง
– สถิติคำสั่งซื้อสูงสุดต่อวินาที อยู่ที่ 583,000 รายการต่อ 1 วินาที
– สถิติการขนส่งใหม่ ณ เวลา เที่ยงคืน 11 นาที ของวันที่ 1 พฤศจิกายน พัสดุชิ้นแรกได้ถูกจัดส่งไปยังผู้บริโภคโดยใช้เวลาเพียง 11 นาทีเท่านั้น โดยสินค้าดังกล่าวก็คือยากันยุงแบบน้ำ
ความลับของเวลาการขนส่งที่สั้นขนาดนี้เพราะอาลีบาบาใช้ระบบการขนส่งแบบดิจิทัล เช่น ใช้การจ่าหน้าซองแบบอิเล็กทรอนิก เพื่อให้สะดวกต่อการคัดแยกพัสดุ, ใช้ AI เลือกจัดส่งสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้าที่อยู่ใกล้จุดที่ลูกค้าชำระเงินมากที่สุดและใช้ Internet of Thing ช่วยในระบบขนส่ง
อาลีบาบายังรองรับระบบการขนส่งข้ามประเทศด้วย ทั้งจากจีนไปต่างประเทศหรือต่างประเทศมายังจีน โดยมีคนจีนที่สั่งซื้อเชอร์รี่จากประเทศชิลี ใช้เวลาส่งแค่ 56 ชั่วโมงมายังเซี่ยงไฮ้ หรืออย่างถ้าจะสั่งเนื้อสเต็กจากวลาดีวอสตอคในรัสเซีย ระบบโลจิสติกส์ของอาลีบาบาสามารถคงคุณภาพของเนื้อให้สดใหม่ด้วยการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ -18 องศา เพื่อให้ถึงมือคนจีนได้
ที่ทำได้ถึงขนาดนี้เพราะอาลีบาบามีศูนย์จัดส่งสินค้า 7 แห่งทั่วโลก บวกด้วยเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ ที่คาดว่าในปีนี้จะมีการใช้เที่ยวบินเช่าเหมาลำถึง 700 เที่ยว และระบบของอาลีบาบาที่อำนวยความสะดวก ตั้งแต่การผ่านพิธีการทางศุลกากร ไปจนถึงการขนส่งสินค้าเข้าไปในจีนและส่งออกจากจีน ซึ่งหมายความว่าลูกค้าทั่วโลกจะได้รับสินค้าเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ไม่ได้มีดีแค่นี้ ถ้าคนซื้ออยากรู้ว่าสินค้าที่สั่งไป ตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว สภาพเป็นไงบ้าง ยังสามารถเช็กรีลไทม์ได้อีก ซึ่งมีลูกค้ามากกว่า 100 ล้านรายที่ติดตามชมขั้นตอนการจัดส่งพัสดุของตนเองโดยตลอด โดยเราจะเจอเจ้าหุ่นยนต์บรรจุสินค้าที่ชื่อ Nuber 199 ที่อาลีบาบาใช้ในคลังสินค้า โดยหุ่นยนต์ตัวนี้ทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน จนกลายเป็นมีม (Meme) ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างของคนจีน
อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้งานปีนี้ยิ่งทวีความน่าสนใจสำหรับคนขายเพราะโควิด-19
การระบาดของโควิด-19 ทำให้การเดินทางไปต่างประเทศหยุดชะงัก แต่ที่จีนเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว คนจีนพร้อมแล้วกับการช้อปแบรนด์ดัง และอำนาจเงินหยวนในมือคนจีนก็ไม่ทำให้แบรนด์พวกนี้ผิดหวัง
เพราะถ้าดูอย่าง เฟอร์ล่า (Furla) แบรนด์กระเป๋าและรองเท้าจากอิตาลี ทำยอดขายชั่วโมงแรกได้มากกว่ายอดขายต่อวันถึง 20 เท่า ส่วนบัลลี่ย์ (Bally) แบรนด์แฟชั่นเฮาส์สุดหรูของสวิตเซอร์แลนด์ก็ทำยอดขายต่อวันได้มากกว่าปกติถึง 60 เท่า
ส่วนแบรนด์ที่พึ่งเข้ามาร่วมแจมด้วยเป็นปีแรก เช่น โคลเอ้ (Chloé) แบรนด์แฟชั่นสตรีชื่อดังจากฝรั่งเศส สามารถขายกระเป๋ารุ่นยอดนิยมหมดอย่างรวดเร็วในระหว่างช่วงพรีเซลในวันที่ 21 ตุลาคม
จนถึงงานเซลช่วงแรกในวันที่ 1 พฤศจิกายน, บาเลนเซียก้า (Balenciaga) เป็นอีกแบรนด์ที่เข้าร่วมงานในปีนี้เป็นครั้งแรก ก็สามารถขายสินค้าหมดหลายรายการตั้งแต่วันแรกของงานเซลคือวันที่ 1 พฤศจิกายน ในปีนี้มีแบรนด์หรูที่เข้าร่วมงาน 11.11 รวมทั้งสิ้นเกือบ 200 แบรนด์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2 เท่าตัว
ถ้าเรามองลึกๆ ลงไป จะเห็นว่างาน 11.11 ของอาลีบาบา แรกเริ่มอาจจะเป็นแค่งานช้อปปิ้ง แต่ผลลัพท์ที่เกิดขึ้น มันส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและคนทั้งโลก แบรนด์สินค้า ร้านค้า ลูกจ้าง หรือแม้แต่เอสเอ็มอี และเกษตรกร ต่างก็ได้ประโยชน์จากมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลกและสามารถฟื้นจากวิกฤติโควิด-19 และหายใจได้ทั่วท้องเสียที
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb