รู้จัก Betagro ผู้นำธุรกิจอาหารชั้นนำแบบครบวงจร
หากพูดถึงผลิตภัณฑ์อาหารตาม supermarket หรือร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ Betagro เป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่หลาย ๆ คนคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี
และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Betagro หรือ “BTG” ได้มีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (แบบ Filing) ต่อ สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้น IPO ให้ประชาชนเป็นครั้งแรก ในจำนวนไม่เกิน 500 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25% ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด
วันนี้ FinSpace จะพาเพื่อน ๆ มาส่องธุรกิจและเบื้องหลังที่ทำให้ Betagro สามารถเติบโตจนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และมีมุมไหนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนบ้าง ?
หมายเหตุ: บทความนี้เพื่อใช้สำหรับเป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
จุดแข็งอันเหนือชั้นของ Betagro ผู้นำนวัตกรรมอาหารรายใหญ่ของประเทศ
1. บริษัทอาหารระดับสากล
มีแบรนด์ระดับพรีเมียม อาทิเช่น Itoham S-Pure Betagro Perfecta ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง และได้รับความไว้วางใจทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังยึดมั่นในความปลอดภัยของอาหาร คุณภาพ และระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ และมีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดในการดำเนินงาน
2. กระบวนการดำเนินงานมีประสิทธิภาพ
การดำเนินธุรกิจแบบลงทุนในสินทรัพย์น้อย (Asset-light investment model) ด้วยเครือข่ายของเกษตรกรแบบมีพันธสัญญา โดยบริษัทให้การสนับสนุนแบบครบวงจรกับเกษตรกร และการเพิ่มประสิทธิภาพในทีมงานและบุคลากร (People Transformation) การจัดซื้อ และจัดการวัตถุดิบอย่างต่อเนื่อง
3. ระบบการจัดจำหน่ายที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยการมีช่องทางในการจัดจำหน่ายที่หลากหลายและครอบคลุม ทั้งไฮเปอร์มาร์เก็ต ส่งออก และช่องทางจัดจำหน่ายของตัวเองกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ เช่น เบทาโกรช็อป เป็นต้น ซึ่งทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีความสามารถในการสร้างรายได้และอัตรากำไรอย่างมีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมผ่านระบบการบริหารช่องทางการจัดจำหน่าย (Channel Management)
4. ศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งในและต่างประเทศ
มีการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าสูง (Value-added) และการลงทุนขยายกำลังการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน อีกทั้งขยายธุรกิจต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา ลาว เมียนมา และการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. มุ่งหน้าสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ (New S-Curve)
โดยมุ่งสร้างโอกาสการเติบโตในธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกี่ยวเนื่องจากศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนระบบเทคโนโลยีชั้นนำ อีกทั้งยังแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยล่าสุดได้เปิดตัวธุรกิจโปรตีนทางเลือกจากพืชของบริษัท ภายใต้แบรนด์ Meatly! รวมทั้ง Kerry Cool เพื่อให้บริการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ
6. คณะผู้บริหารและคณะกรรมการมีวิสัยทัศน์และมากด้วยประสบการณ์
โดยมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับนโยบาย ESG
ลักษณะของธุรกิจ Betagro
เมื่อพูดถึงธุรกิจนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนมักจะนึกถึงผลิตภัณฑ์อาหาร แต่จริง ๆ แล้ว Betagro ประกอบธุรกิจอาหารแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ซึ่งแบ่งตามลักษณะของธุรกิจหลัก ๆ ออกเป็น 4 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มธุรกิจเกษตร
ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์ อุปกรณ์และเครื่องมือฟาร์มที่หลากหลาย รวมไปถึงการให้บริการห้องปฏิบัติการ แบรนด์ภายใต้กลุ่มธุรกิจเกษตร เช่น Betagro Be-Lac และ Better Pharma
2. กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน
ผลิตและจำหน่ายเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และผลิตภัณฑ์ปลา แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ การแปรรูปเนื้อสัตว์เป็นผลิตภัณฑ์ปรุงสุก ผลิตภัณฑ์พร้อมปรุง ผลิตภัณฑ์กึ่งปรุงสุก และผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทาน ภายใต้แบรนด์ เช่น S-Pure Betagro Itoham ผลิตภัณฑ์พลอยได้ และโปรตีนทางเลือกภายใต้แบรนด์ Meatly! รวมถึงกิจการฟาร์ม
3. กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ
ประกอบธุรกิจในประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมา เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อาหารสัตว์ การเพาะพันธุ์สัตว์ ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์ อุปกรณ์ฟาร์มและผลิตภัณฑ์อาหาร รวมถึงสุกร สัตว์ปีก ไข่ไก่ เนื้อสัตว์แปรรูปและอาหารแปรรูป
4. กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง
ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง ขนมขบเคี้ยวสำหรับสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง แบรนด์ภายใต้กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง เช่น Perfecta, DOG n joy, CAT n joy
โครงสร้างรายได้ Betagro
สำหรับสัดส่วนรายได้ของธุรกิจที่ Betagro ดำเนินการทั้งหมด มีรายละเอียด ดังนี้
- กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน ในสัดส่วน 68.4%
- กลุ่มธุรกิจเกษตร ในสัดส่วน 24.6%
- กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ ในสัดส่วน 5.2%
- กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง ในสัดส่วน 1.8%
*ข้อมูล 6 เดือนแรก ปี 2565
”Powering Change” กลยุทธ์เติบโตเสริมศักยภาพการแข่งขัน
กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของ Betagro ที่จะยกระดับการเติบโตขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกัน 5 ด้านหลัก ได้แก่
1. Supply Chain Resilience
ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด เพื่อลดผลกระทบต่อธุรกิจ และสร้างโอกาสจากปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ รวมทั้งการดูแลเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพและปศุสัตว์
2. Digital Transformation
สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า คู่ค้า และยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันด้วยการนำเทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนด้วยฐานข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำ มุ่งสู่ Smart Transformation เต็มรูปแบบ
3. People Transformation
พัฒนาทักษะดิจิทัลและดึงศักยภาพของพนักงานให้เด่นยิ่งขึ้น ด้วยการปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็น Lean Organization
4. New Business
หาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบสินค้า เทคโนโลยีและนวัตกรรมให้สอดคล้องตามความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น
5. Sustainability Transformation
สร้างคุณค่ากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน โดยดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG ที่ครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล
ผลประกอบการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
หากดูรายได้ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 42,975.5 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้าเป็น 54,193.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 26.1%
ส่วนกำไรสุทธิในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 233.1% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิที่ถือว่าสูงเช่นเดียวกันที่ 7.2% สะท้อนถึงกำไรสุทธิที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ผลประกอบการ Betagro ย้อนหลัง
ปี 2562 รายได้ 75,188.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,267.5 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 80,631.5 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,341.0 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 86,743.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 839.0 ล้านบาท
6 เดือนแรก ปี 2565 รายได้ 54,193.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,892.5 ล้านบาท
จากจุดแข็งของ Betagro ที่ต่างจากคู่แข่ง และกลยุทธ์ “Powering Change” ได้สะท้อนผลลัพธ์ผ่านงบการเงินที่เติบโตอย่างเข้มแข็ง
Betagro เสนอขายหุ้น IPO
ในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO ของ Betagro จะมีการเสนอขายจำนวนไม่เกิน 500 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ฯ (รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (overallotment) จาก BTG กรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)
โดยวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ คือ
1. เป็นเงินทุนในการเข้าซื้อ และ/หรือ ก่อสร้างฟาร์มและโรงงานแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน ด้วยการลงทุนใน
- โรงงานอาหารสัตว์ ฟาร์ม โรงชำแหละสัตว์ โรงงานแปรรูปอาหารและเนื้อสัตว์ รวมถึงการผลิตไข่ไก่และโปรตีนทางเลือกในไทย
- โรงงานอาหารสัตว์ ฟาร์ม โรงชำแหละสัตว์ในประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมา
- โรงงานอาหารสัตว์เลี้ยงและขนมขบเคี้ยวสำหรับสัตว์เลี้ยง
- ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อนำมาใช้ในการเปลี่ยนแปลงการจัดการและดำเนินธุรกิจ และนำระบบอัตโนมัติมาจัดการและดำเนินธุรกิจ รวมทั้งการลงทุนในกิจการร่วมค้า
2. ปรับโครงสร้างเงินทุน ด้วยการชำระหนี้ทั้งระยะสั้นและยาวให้กับสถาบันการเงินต่าง ๆ
3. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนดำเนินงานของบริษัท ฯ
ศึกษาข้อมูลจากหนังสือชี้ชวน
สำหรับใครที่สนใจลงทุนในธุรกิจ Betagro สามารถศึกษารายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือชี้ชวนได้ที่ https://bit.ly/3JHd1tP
หรือศึกษาธุรกิจ Betagro เพิ่มเติมได้ที่ www.betagro.com
หมายเหตุ: บทความนี้เพื่อใช้สำหรับเป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
#บทความนี้เป็นAdvertorial
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
กลุ่มความรู้นักลงทุน: http://bit.ly/3clAwZ2
กลุ่มพัฒนาตัวเอง: http://bit.ly/3ejPXnk
กลุ่มคริปโต บิทคอยน์ NFT: https://bit.ly/3J8LS1W