สไตล์การลงทุน DCA หรือ Lump Sum แบบไหนเหมาะกับเรา ?
วิธีการลงทุนมีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน และวิธีที่นักลงทุนหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดีคงหนีไม่พ้น DCA และ Lump Sum มาดูกันดีครับว่าทั้ง 2 วิธีการลงทุนนี้แตกต่างกันยังไง แล้ววิธีไหนเหมาะกับใครบ้าง ?
DCA (Dollar-Cost Averaging) คืออะไร ?
คือ การลงทุนแบบทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยจำนวนเงินเท่า ๆ กัน โดยไม่สนใจความผันผวนของมูลค่าระหว่างทาง
ข้อดีของการลงทุนแบบ DCA
- ฝึกวินัยการออมและการลงทุน เพราะเป็นการแบ่งเงินไปลงทุนอย่างสม่ำเสมอทุกๆ งวดไม่ขาดแม้แต่งวดเดียวเป็นระยะเวลานาน ซึ่งการทำเช่นนี้ก็หมายความว่าเราได้สร้างวินัยด้านการเงินให้กับตัวเอง เพราะสามารถกันเงินจากการใช้จ่ายมาเป็นเงินลงทุนได้ทุกงวด เข้าแนวคิดที่ว่า “รายได้ – เงินออม/เงินลงทุน = ค่าใช้จ่าย” หรือ “ออมก่อนใช้” นั่นเอง
- ถัวเฉลี่ยต้นทุนในการลงทุน เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ สัปดาห์หน้า ปีหน้า 5 ปี หรือ 10 ปีข้างหน้า ภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร ดังนั้น การลงทุนถัวเฉลี่ยแบบสม่ำเสมอจะทำให้ต้นทุนการลงทุนลดต่ำลงไป ที่สำคัญยังทำให้มั่นใจว่าจะได้ซื้อหุ้นหรือหน่วยลงทุนจำนวนมากที่ราคาต่ำในช่วงตลาดขาลง
- ตัดอารมณ์ออกจากการตัดสินใจลงทุน เมื่อวางแผนการลงทุนทุกๆ เดือน จะทำให้นักลงทุนตัดอารมณ์ความรู้สึกออกไปได้ เช่น เดือนนี้ตลาดปรับลดลงก็ได้ลงทุน เดือนถัดไปตลาดปรับขึ้นก็ยังได้ลงทุน เป็นการลดความเครียดหรือความกังวลได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่พลาดโอกาสในการลงทุน ไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร
ข้อเสียของการลงทุนแบบ DCA
- ใช้เวลาลงทุนนาน กว่าจะเห็นผลจอบแทนที่ชัดเจน
สไตล์การลงทุน DCA เหมาะกับใคร ?
- นักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์
- มนุษย์เงินเดือน เพราะได้รับเงินเดือนทุกเดือน
- นักลงทุนที่มีเงินลงทุนไม่เยอะ ก็สามารถทยอยลงทุนก้อนเล็กให้เป็นเงินก้อนใหญ่ได้
Lump Sum คืออะไร ?
คือ การใช้เงินจำนวนหนึ่งเพื่อลงทุนในจังหวะเวลาที่ประเมินแล้วว่าเหมาะสม (Market Timing) และมีความมั่นใจว่าในอนาคตราคาสินทรัพย์ที่ลงทุนจะปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข้อดีของการลงทุนแบบ Lump Sum
- ได้ผลตอบแทนสูงกว่าเมื่อตลาดอยู่ในภาวะขาขึ้น เมื่อนักลงทุนมั่นใจว่าภาวะตลาดเป็นขาขึ้นและอยากให้การลงทุนได้ผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ การลงทุนแบบครั้งเดียวจะได้ผลตอบแทนที่ดี เพราะราคาสินทรัพย์จะเติบโตต่อไปเรื่อย ๆ และการลงทุนแบบครั้งเดียวจะมีต้นทุนต่ำกว่าแบบถัวเฉลี่ยในภาวะตลาดขาขึ้น
- ฝึกการจับจังหวะตลาด นักลงทุนต้องมีข้อมูลข่าวสาร การวิเคราะห์ ประสบการณ์การลงทุนสูง ที่สำคัญจะต้องมีความแม่นยำในจังหวะขายด้วย
ข้อเสียของการลงทุนแบบ Lump Sum
- หากจับจังหวะผิด มีโอกาสขาดทุนสูง
สไตล์การลงทุน DCA เหมาะกับใคร ?
- นักลงทุนที่มีประสบการณื มีความชำนาญในการลงทุน ที่สามารถหาจุดเข้า-ออก ได้
- นัลงทุนที่มีเงินลงทุนก้อนใหญ่ สามารถรับความเสี่ยงได้สูง
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb