First Jobber ควรจ่ายเบี้ยประกันปีละเท่าไหร่?
บทความนี้เป็นตอนต่อจากบทความ “First Jobber ซื้อประกันให้ตัวเองแบบไหนดี?” หลังจากที่ทราบกันได้แล้วว่าตัวเราเองเหมาะกับประกันแบบไหน วันนี้มาดูกันต่อค่ะ ว่าเบี้ยประกันที่จะต้องจ่ายในแต่ละปี เราควรจ่ายปีละเท่าไหร่?
10% ของรายได้ต่อปี คือค่าเบี้ยประกันที่เหมาะสม
จากที่เราได้คุยกับพี่ๆ ตัวแทนมาหลายๆ ท่าน ให้ความเห็นตรงกันว่า เบี้ยที่จ่ายต่อปี ไม่ควรเกิน 10% ของรายได้ทั้งปี ซึ่งเราเห็นด้วยกับตัวเลขนี้ ในวัยเริ่มทำงาน รายได้เราอาจจะยังไม่เยอะมาก ใน 10% ที่เอามาจ่ายเบี้ย อาจจะยังไม่ครอบคลุมเต็มรูปแบบ ทุนที่ทำประกันชีวิตจะยังมีไม่เยอะ ประกันสุขภาพอาจจะมีบางส่วนที่ต้องจ่ายเพิ่มเองเมื่อมีค่ารักษาเกินวงเงินที่ทำไว้ แต่ก็แนะนำให้ทำในงบที่ไหวไปก่อน อีก 2-3 ปี รายได้เรามากขึ้น ค่อยมาซื้อประกันเพิ่มเติม
เราชอบคำพูดของพี่ตัวแทนท่านนึง ด้วยความที่เราอยากทำให้ครอบคลุมทั้งหมดไปเลยทีเดียว โรคร้ายแรงต้องครอบคลุมเต็มสูบ ค่าห้องต้องพอ ค่ารักษาต้องเยอะ เป็นเพราะเราไม่อยากจะควักเงินเพิ่มเลยเวลาต้องเข้ารักษา เพราะไม่สามารถควบคุมค่ารักษาได้ แต่เราควบคุมเบี้ยประกันได้ เรารู้ว่าต้องจ่ายเบี้ยปีละเท่าไหร่
ซึ่งพอเราอยากได้แบบเต็มสูบแบบนั้น ค่าเบี้ยออกมาสูงมากๆ เกิน 10% ของรายได้ไปเยอะ พี่ตัวแทนท่านนั้นเลยพูดกับเราว่า
“พี่รู้ว่าน้องอยากได้แบบประกันที่ครอบคลุมได้มากที่สุด แต่แบบประกันที่เหมาะกับน้องในตอนนี้ อาจไม่ใช่แบบประกันที่ครอบคลุมที่สุด แต่เป็นแบบที่เหมาะกับสุขภาพกายและสุขภาพการเงินของเราในตอนนี้ที่สุดนะ”
เพราะด้วยวัยอายุเท่านี้ ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายแรง หรือ เจ็บป่วยหนักๆ ยังค่อนข้างต่ำ เราก็ต้องหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายเราด้วย ทานอาหารที่เหมาะสม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงตรงนี้ไป
ควรเก็บเงินเพื่อจ่ายเบี้ยยังไง? เก็บที่ไหนดี?
เบี้ยประกันชีวิตมีหลายรูปแบบในการจ่าย ส่วนใหญ่จะเป็นราย 6 เดือน หรือ ราย 1 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นทั้งคู่ เก็บเงินได้ปีเดียว ต้องจ่ายแล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรเก็บในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง อย่างกองทุนรวมหุ้น หรือ หุ้น
แนะนำให้เก็บไว้ที่สินทรัพย์ทางการเงิน 1 ใน 3 อย่างนี้ คือ
เงินฝากประจำ
เป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี มีระยะเวลาการฝากตั้งแต่ 3 เดือน 6 เดือน ไปจนถึง 3 ปีก็มี เลือกรอบการฝากตามรอบการจ่ายเบี้ยประกันได้เลย
กองทุนรวมตลาดเงิน
เป็นการลงทุนในเงินฝาก และตราสารหนี้ระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี ทำให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่าฝากออมทรัพย์เช่นกัน และมีสภาพคล่องที่สูง หลังจากทำรายการขาย รอเงินเข้าบัญชีเพียง 1 วันทำการเท่านั้น
กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น
เป็นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี ซึ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้นมากกว่าเงินฝากเล็กน้อย ดังนั้นจะมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่ากองทุนรวมตลาดเงินด้วย สภาพคล่องก็ยังถือว่าสูงเช่นกัน หลังจากทำรายการขาย รอเงินเข้าบัญชีเพียง 1-2 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละกองทุน)
เมื่อเลือกแบบประกันได้แล้ว ก็สามารถติดต่อบริษัทประกันเพื่อคำนวณเบี้ยที่เหมาะสม และเก็บออมตามวิธีที่แนะนำได้เลยค่ะ หากมีข้อสงสัยอยากปรึกษาเรื่องการลงทุนเพิ่มเติม เข้ามาทักทายกันในเพจได้เลยนะคะ:) >> Get Wealth Soon
ติดตามบทความอื่น ๆ ของ Get Wealth Soon ได้ที่ FinSpace – Get Wealth Soon