กระจายลงทุนใน Greater China เพื่อเพิ่มโอกาสลงทุนที่กว้างกว่า กับกองทุน UOBSGC
ทำไมเราควรลงทุนในหุ้นจีนที่กระจายตัว และ Greater China คืออะไร ?
วันนี้ FinSpace จะพาไปรู้จักกับกองทุน UOBSGC จาก UOBAM กองทุนจีนตัวท็อปการันตี 5 ดาวจากการจัดอันดับของ Morningstar ทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาด Greater China ที่ไม่ได้มีแค่จีนแผ่นดินใหญ่เพียงอย่างเดียว
Greater China คืออะไร ?
Greater China ไม่ใช่แค่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเดียว แต่คือกลุ่ม 3 ประเทศ ที่ประกอบด้วย จีน ไต้หวัน และฮ่องกง ซึ่งมีหุ้นที่โดดเด่นแตกต่างกัน เช่น
- จีน โดดเด่นในอุตสาหกรรมธนาคาร รถยนต์ไฟฟ้า
- ฮ่องกง โดดเด่นในอุตสาหกรรมการเงินและการท่องเที่ยว
- ไต้หวัน โดดเด่นในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
เศรษฐกิจจีนในภาพรวม หลังจากเปิดประเทศ
หลังจากรัฐบาลจีนยกเลิกมาตรการกักตัวและจำกัดการเดินทางตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เศรษฐกิจในภาพรวมของจีนฟื้นตัวได้ดีจากการท่องเที่ยวที่การเดินทางกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ภาคการบริการและยอดค้าปลีกที่ทยอยฟื้นตัว ควบคู่กับรายได้ของประชากรที่ค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ เงินเก็บของประชากรจีนก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินฝาก ทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อสูงขึ้น ซึ่งหากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของจีนเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ คาดว่าจะช่วยสนับสนุนต่อการบริโภคภายในประเทศ ให้สามารถขยายตัวได้ดีในอนาคต โดยการฟื้นตัวของจีนส่งผลต่อการฟื้นตัวของฮ่องกง และไต้หวัน เช่นเดียวกัน
การเติบโตของการลงทุนในกล่ม Greater China
1. จีน พยายามพัฒนาเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง โดยอุตสาหกรรมของจีนที่น่าสนใจ ได้แก่
- รถยนต์ไฟฟ้า มียอดขายในปี 2022 สูงถึง 6 ล้านคัน ส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 25% คิดเป็น 1 ใน 4 ของโลก
- การแพทย์ มีนโยบาย Healthy China 2030 ในการยกระดับมาตรฐานอุปกรณ์ทางการแพท์ นวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อใช้ในการรักษาคุณภาพชีวิตของประชากรให้ดีขึ้น
- บริการออนไลน์ มียอดค้าปลีกออนไลน์ในปี 2022 เพิ่มขึ้น 4% ประมาณ 13.8 ล้านล้านหยวน
- ธุรกิจการจัดส่งสินค้าและบริการถึงที่ (delivery) ในปี 2022 มีการใช้บริการกว่า 4 หมื่นล้านหยวน
2. ฮ่องกง การลงทุนในฮ่องกง เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจ เนื่องจากมักจะเป็น Gateway หรือ ประตูที่เชื่อมระหว่างบริษัทจีนที่ต้องการจะระดมทุนจากทั่วโลก จึงทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงเป็นตลาดในการขยายฐานนักลงทุนไปนอกประเทศจีน
3. ไต้หวัน เป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการใช้ Data ที่เพิ่มมากขึ้น ณ ปัจจุบัน ทั้งการใช้โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเติบโตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ร่วมกับเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง (ML) และวิทยาการขั้นสูงทำให้อุปกรณ์เทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตมีความจำเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมหลายประเภท ทำให้เกิดความต้องการในการใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ในไต้หวัน น่าจะได้รับประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญด้วย
ผลตอบแทนของ Greater China เมื่อเทียบกับหุ้นจีนในกลุ่มอื่น ๆ
ผลตอบแทนของ Greater China เมื่อเทียบกับหุ้นจีนในกลุ่มอื่น ๆ อย่าง All China, A-Shares และ H-Shares ให้ผลตอบแทนรวมกว่า 94% โดยคิดเป็นผลตอบแทนต่อปีประมาณ 5% นอกจากนี้ ยังมีความผันผวนต่ำกว่าอีกด้วย
ที่มา : Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2023
สรุปข้อดีของการลงทุนใน Greater China
1. มีศักยภาพในการเติบโตสูง
การกระจายการลงทุนในกลุ่ม Greater China โดยไม่เจาะจงประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นประเทศเดียว จะช่วยลดความเสี่ยงเฉพาะตัวของแต่ละประเทศ และสร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว
2. ตลาดหุ้นจีนมีความสัมพันธ์กับหุ้นโลกน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ
จากสถิติที่ผ่านมาความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจีนจะมีความสัมพันธ์กับหุ้นโลกน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ ทำให้สามารถใช้เป็นเครื่องมือลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้
3. มีระดับราคา (Valuation) ที่น่าสนใจ
ปัจจุบันตลาดหุ้นกลุ่มนี้ถือว่ามีระดับราคาที่น่าสนใจ ตัวเลขค่า P/E ของ Greater China 10 ปีที่ผ่านมา (จีน 9.4 เท่า, ฮ่องกง 12.6 เท่า, ไต้หวัน 15.3 เท่า) ซึ่งเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ มีระดับราคา (Valuation) ที่ค่อนข้างสูง P/E 18.9 ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสในการทยอยลงทุนสะสมที่ดี
ลงทุนในกลุ่ม Greater China ผ่านกองทุน UOBSGC
1. กองทุน UOBSGC เข้าลงทุนในกองทุนหลัก United Greater China Fund ซึ่งได้รับการจัดอันดับใน Morningstar 5 ดาว
2. กลุ่ม Greater China จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจของจีน ฮ่องกง และไต้หวัน และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง
3. ตลาดหุ้นของ Greater China มีจำนวนหุ้น (Universe) มากถึง 12,000 ตัวให้เลือก ซึ่งทำให้นักลงทุนมีโอกาสลงทุนในหุ้นที่มีความหลากหลาย มีการเติบโตที่โดดเด่น และอาจเป็นหุ้นที่อยู่นอกเหนือความสนใจของนักวิเคราะห์ทั่วไป
4. เศรษฐกิจจีนคิดเป็น 15% ของเศรษฐกิจโลก แต่มีน้ำหนักการลงทุนเพียง 3.5% ในดัชนี MSCI AC World Index ทำให้หุ้นจีนยังคงมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต ซึ่งถ้าเลือกลงทุนได้ถูกจังหวะ จะสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนได้ดี
5. การเลือกหุ้นในการลงทุนของกองทุนหลัก United Greater China Fund จะอาศัยความเชี่ยวชาญของผู้จัดการกองทุน ร่วมกับเทคโนโลยี Artificial intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) เพื่อเฟ้นหาหุ้นจาก 12,000 ตัวให้ได้หุ้นที่คาดว่าจะมีโอกาสในการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้มากที่สุด โดยใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ จึงทำให้นักวิเคราะห์ทั่วไป ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากโดยปกตินักวิเคราะห์จะวิเคราะห์หุ้นได้เพียง 50 บริษัทต่อคนเท่านั้น การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI และ ML จึงช่วยให้กองทุนสามารถคัดกรองหุ้นที่มีจำนวนมาก และมีการคัดเลือกหุ้นที่ดี มีการบริหารความเสี่ยงที่ดี และลงทุนในหุ้นหรืออุตสาหกรรมที่มีโอกาสในการเติบโต ทำให้กองทุนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น
ผลตอบแทนของกองทุนหลัก United Greater China Fund
กองทุนหลัก United Greater China Fund สามารถสร้างผลตอบแทนกว่า 306.1% ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน และมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าดัชนีอ้างอิง (benchmark) ที่มีอัตราผลตอบแทนเพียง 182%
ที่มา : Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2023
น้ำหนักของการลงทุนในหุ้นต่าง ๆ
กองทุนหลัก United Greater China Fund ให้น้ำหนักการลงทุนไปยังกลุ่ม IT และกลุ่มการเงิน กลุ่มละประมาณ 25% ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างหุ้นเติบโต (growth) เช่น กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ และกลุ่ม IT และหุ้นเชิงรับ (defensive) เช่น หุ้นกลุ่มธนาคาร การเงิน และอาหาร
โดยในช่วงที่ผ่านมา ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในไต้หวัน ซึ่งสร้างผลตอบแทนได้ดีตามการเติบโตของกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ โดยบริษัทที่น่าสนใจที่กองทุนเข้าไปลงทุน เช่น บริษัท Wistron (3231) ซึ่งทำธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ในไต้หวัน โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นประมาณ 5 เท่า จากราคาช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ที่มา : Presentation “Greater China Economic Outlook” by UOBAM for UOBSGC ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2023
สรุปข้อมูลกองทุน UOBSGC
กองทุน UOBSGC ลงทุนในหน่วยลงทุนต่างประเทศประเภท Feeder Fund หรือลงทุนในกองทุนต่างประเทศเป็นหลักเพียงกองทุนเดียวได้แก่ United Greater China Fund Class A SGD Acc โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าสินทรัพย์ ซึ่งจัดตั้งและบริหารจัดการโดย UOB Asset Management ประเทศสิงคโปร์
ระดับความเสี่ยง : ระดับ 6
เงินลงทุนขั้นต่ำ : ไม่มี
ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน : ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ค่าธรรมเนียมการซื้อ-ขาย : Front-end Fee ไม่เกิน 1.5% และยกเว้น Back-end Fee
หมายเหตุ : บริษัทจัดการอาจพิจารณาเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจริงเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์หรือค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ
ที่มา : www.uobam.co.th ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2023
คำแนะนำในการลงทุนกองทุน UOBSGC
สำหรับนักลงทุนที่มีกองทุนหุ้นจีนอยู่แล้ว ให้พิจารณาทยอยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกลุ่ม Greater China มากขึ้น เนื่องจากจะช่วยเพิ่มการกระจายตัวและลดความเสี่ยงจากการลงทุนประเทศจีน ไต้หวัน หรือฮ่องกงเพียงอย่างเดียว
แต่ถ้าเป็นนักลงทุนที่ยังไม่เคยมีกองทุนกลุ่ม Greater China เลย ให้พิจารณาลงทุนไม่เกิน 15% ของพอร์ต เพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมจากโอกาสการเติบโตของกลุ่ม Greater China
สอบถามข้อมูลหรือซื้อกองทุนได้ที่ www.uobam.co.th หรือติดต่อที่เบอร์ 0-2786-2222
คำเตือน : การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในประเทศจีนฯ ไต้หวัน ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb