เลือกเปลี่ยนภาษีเป็นเงินเกษียณ กับ RMF กองทุนเด็ด ธีมลงทุนต่างประเทศ จาก บลจ.กรุงศรี
บทสรุป LINE ScaleUp 2019 ปั้นสตาร์ทอัพไทยสู่ยูนิคอร์น
ผ่านพ้นไปแล้วกับ LINE ScaleUp 2019 โปรแกรมต่อยอดความสำเร็จสตาร์ตอัพไทยสู่ตลาดโลก ซึ่งมีเป้าหมายยกระดับศักยภาพ เพิ่มช่องทางการตลาด และมีโอกาสรับทุนสนับสนุนจากต่างประเทศ
Key Highlights สำคัญในงานนี้ คงหนีไม่พ้นกิจกรรม “Demo Day” ที่เปิดให้สตาร์ตอัพ 6 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบได้ปล่อยของ โชว์ศักยภาพกันอย่างเต็มที่ หลังได้ผ่านโปรแกรมสุดเข้ม LINE ScaleUp camp ตลอด 4 เดือนเต็ม
รู้จัก 6 สตาร์ตอัพไทย มุ่งสู่ยูนิคอร์น
1. Choco CRM
ระบบจัดการหน้าร้าน (POS) และระบบพัฒนาความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ให้กับผู้ประกอบการต่างๆ
2. Claim Di
แพลตฟอร์มเคลมประกันภัยได้ด้วยตัวเองแบบครบวงจรได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน
3. FINNOMENA
แพลตฟอร์มการลงทุนในกองทุนรวมแบบครบวงจร ซึ่งนักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูล ขอคำแนะนำ และเริ่มลงทุนได้ด้วยตัวเอง
4. Gowabi
แพลตฟอร์มสำหรับจองบริการเกี่ยวกับสปาและบริการเสริมความงามต่างๆ
5. Seekster
แพลตฟอร์มสำหรับจัดหาผู้ให้บริการด้านการทำความสะอาด ซ่อมแซม และต่อเติม
6. Tellscore
แพลตฟอร์มกลางที่เชื่อมระหว่างแบรนด์-เอเจนซี่ กับ Influencer ทั้ง micro และ macro
อย่างไรก็ดี Demo Day ครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของทั้ง 6 ของทั้งสตาร์ตอัพไทยที่พร้อมจะเติบโตต่อไปในอนาคต ด้วยการสนับสนุนจาก LINE ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าจากฐานสมาชิกผู้ใช้งานกว่า 44 ล้านรายในไทย และต่อยอดไปสู่ระดับโลกได้
เปิดตัว LINE Mini App
อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ การเปิดตัว LINE Mini App ใหม่ 2 ตัว อย่างเป็นทางการ นั่นคือแอปการลงทุน FINNOMENA และ Seekster ซึ่งเป็นแอปหาแม่บ้าน
คอนเซ็ปต์ของ LINE Mini App เป็นบริการใน LINE ที่ให้เราสามารถใช้บริการแอปอื่นโดยไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่ม เป็นเสมือนแอปตัวเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในหน้าแชทได้เลย
มองภาพสตาร์ทอัพไทย 2020
บทสรุปสุดท้าย “เจเดน คัง” รองประธานกรรมการฝ่ายกลยุทธ์ LINE ประเทศไทย ได้ฉายภาพทิศทางสตาร์ทอัพไทย 2020 ออกมาเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
ปัจจุบัน Thai digital economy มีสัดส่วนต่อ GDP เพียง 3% เท่านั้น สตาร์ทอัพไทยส่วนใหญ่ถือว่ายังอยู่ในระยะเริ่มต้น และยังน้อยเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย หรือเวียดนาม
สาเหตุหลักที่เป็นข้อจำกัดของเรามี 2 เรื่อง ได้แก่
บุคลากร (Talent) โดยเฉพาะบุคลากรด้านเทคโนโลยี ซึ่งไทยมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
เงินทุน (Funding) ซึ่งถือว่ายังน้อย โดยเฉพาะกลุ่ม Investors จากต่างประเทศ
แต่ทั้งนี้เชื่อว่าด้วยเครือข่ายธุรกิจที่ LINE มี จะมาช่วยยกระดับวงการสตาร์ทอัพไทยใหมีศักยภาพเพียงพอที่จะเพิ่มสัดส่วนเศรษฐกิจดิจิทัลต่อ GDP ประเทศไทย ให้เติบโตขึ้นถึง 2 เท่าภายในปี 2025