สถานการณ์ตลาดช่วงโควิด คิดแบบนักวิเคราะห์ทางเทคนิค Daddy Trader x FinSpace
การวิเคราะห์ทางเทคนิค ถ้าอยากคาดการณ์ว่าอนาคตราคาจะไปในทิศทางไหนก็สามารถทำได้ แต่ท้ายที่สุดเราก็ต้องลงมือซื้อหรือขาย ตามข้อมูลที่กราฟราคาหรือ Indicators แสดงให้เราเห็นในปัจจุบันอยู่ดี
ช่วงนี้ผมได้รับคำถามเข้ามามากเหมือนกัน เกี่ยวกับมุมมองทิศทางของราคา ว่าผมมีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับทิศทางของตลาดหุ้นในอนาคต เช่น หุ้นจะขึ้นต่อไหม หุ้นจะลงหรือเปล่า
ผมจึงคิดว่าเป็นจังหวะที่ดีที่ผมจะแชร์หลักการที่ผมใช้อยู่ เวลาที่ผมใช้งานความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทค
หลักการในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ผมใช้งานอยู่ คือ แปลความหมายจากกราฟราคา และเครื่องมือต่าง ๆ ทางเทคนิค ว่า ณ ปัจจุบัน กราฟราคาและเครื่องมือต่าง ๆ ให้ข้อมูลกับผมอย่างไร และผมควรตัดสินใจทำอะไร (ขอเน้นคำว่า “ปัจจุบัน”)
สำหรับมุมมองว่าราคาจะขึ้นหรือลงในอนาคตนั้น ต้องบอกว่าเป็นเพียงแค่มุมมองส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งก็ไม่แปลกเลยที่ในอนาคตราคาอาจจะไม่เป็นไปตามที่ผมคาดเดาก็ได้ เพราะความจริงก็คือไม่มีใครสามารถคาดการณ์การเคลื่อนที่ของราคาได้อย่างแม่นยำ 100%
แล้วตอนนี้ผมมองตลาดอย่างไร
คำตอบของผม คือ
เริ่มจากหลักการก่อน ที่เราจะไม่คาดเดาอนาคต แต่จะใช้ข้อมูลจากกราฟราคาและเครื่องมือทางเทคนิคปัจจุบัน แล้วตัดสินใจว่าเราควรทำอะไร และทำอย่างไร
ดังนั้นเรามาดูข้อมูลกันครับว่าปัจจุบันกราฟราคากับเครื่องมือประเภทอินดิเคเตอร์มีพฤติกรรมอย่างไร
ทิศทางแนวโน้มระยะกลางตั้งแต่กลางเดือนมีนาจน (2020) ถึงปัจจุบัน(มิ.ย 2020) มีทิศทางเป็นขาขึ้น (ระยะกลาง) แบบถึงแม้จะมองด้วยตาเปล่าก็เห็นได้ชัดเจน แต่ช่วงประมาณเดือนนึงที่ผ่านมา ราคาวิ่งอยู่ในกรอบ โดยที่ Slope ไม่ค่อยชันเท่าไร และกราฟมีการซ้อนทับกันมาก จึงสรุปว่่าช่วงเดือนนึงที่ผ่านมาการเคลื่อนที่ของราคาเป็นแบบ Sideways Up ซึ่งเป็นข้อมูลบอกเราว่าถึงแม้ราคากำลังขึ้น แต่ก็มีอาการลังเลของฝั่งซื้อเหมือนกัน เราก็น่าจะติดตามตลาดใกล้ชิดหน่อยในช่วงนี้
จากกราฟราคาที่วาดกรอบบน-กรอบล่างได้ และกราฟราคาวิ่งอยู่ในกรอบยังไม่ได้ออกนอกกรอบ ตอนนี้ราคากำลังวิ่งขึ้นไปหากรอบบน แต่จะเบรกกรอบบนหรือไม่ ถ้าจะตอบคำถามนี้จะก็จะเป็นแค่มุมมองและการคาดเดาครับ
แนวทางในใช้งานข้อมูลของผม คือ เมื่อเรารู้ว่าราคากำลังวิ่งอยู่ในกรอบ โดยที่ยังไม่ตัดสินใจออกนอกกรอบ ถ้าเราไม่มีหุ้นในมือ และอยากเก็งกำไร ก็น่าจะทำได้โดยการเก็งกำไรระยะสั้น ๆ ด้วยการหาจังหวะซื้อที่กรอบล่างและหาจังหวะขายที่กรอบบน
แต่ถ้าเรามีหุ้นอยู่ในมือแล้วเก็งกำไรแบบระยะกลาง การที่ราคายังไม่เบรกกรอบล่างลงมา ข้อมูลนี้ให้ความสบายใจกับเราว่ายังสามารถถือหุ้นต่อได้ ยังไม่มีประเด็นที่ต้องกังวลมากเท่าไร
ถึงแม้ว่าเราจะเก็งกำไรระยะกลาง แต่อยากมีส่วนร่วมในการเก็งกำไรสั้น ๆ ก็อาจใช้จังหวะที่ปัจจุบันราคาวิ่งไปเจอกรอบบน ในการขายทำกำไรบางส่วน ขอเน้นคำว่า “บางส่วนนะครับ” เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณอะไรบอกว่าราคาน่าจะกลับทิศทางของแนวโน้มระยะกลาง
มื่อหันมาดู Indicators ที่ผมใช้ประจำในการระบุทิศทางของแนวโน้มระยะกลาง เส้น EMA10 อยู่เหนือ EMA50 สนับสนุนว่าแนวโน้มระยะกลาง กราฟราคายังน่าจะเป็นทิศทางขาขึ้นอยู่
มุมมองทิศทางในระยะสั้น ๆ จะเห็นได้ว่ากราฟราคาแทบไม่ต่ำกว่าเส้น EMA10 ลงมาเลย ซึ่งถ้าเรามีหุ้นอยู่ในมือ ข้อมูลจาก EMA10 ในปัจจุบันก็สร้างความสบายใจในการถือหุ้นต่อได้ในระยะสั้น
ถ้าเราใช้ข้อมูลจาก MACD การที่ MACD อยู่เหนือเส้น Center Line และ Signal Line อยู่เหนือ MACD ก็ยังให้ความสบายใจกับคนถือหุ้นว่ายังน่าจะถือต่อได้ทั้งระยะสั้น และระยะกลาง
เมื่อเราไม่จำเป็นต้องคาดเดาทิศทางในอนาคต แล้วเราต้องทำอย่างไร
สิ่งที่เราจะทำ คือ การติดตามพฤติกรรมราคา ผ่านกราฟราคา และ Indicators ไปเรื่อย ๆ แล้วดูว่ากราฟราคา หรือ Indicators ในอนาคตให้ข้อมูลอะไร จากนั้นค่อยตัดสินใจลงมือซื้อหรือขายจากข้อมูลที่เห็น (ไม่เน้นการคาดเดา)
อย่างไรก็ตามเราสามารถใช้ข้อมูลเช่น แนวรับแนวต้าน หรือ เส้น Trend Line หรือ Indicators เป็นตัวบอกกับเราได้ว่า ในอนาคตถ้าราคามาถึงที่จุดไหน จะเป็นจังหวะที่ดี ที่เราต้องเข้าไปติดตามตลาดให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่ราคาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้มีโอกาสลงมือซื้อขายได้
หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่อ่านจนถึงตรงนี้ และขอบคุณมากครับที่สามารถทนอ่านจนจบได้
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
อ่านอะไรต่อดี…