3 ทริค ! ยกระดับพอร์ตลงทุน ให้ Success ด้วย Money Management
มีใครเคยเป็นแบบนี้ไหมครับ เทรดหุ้นได้กำไรมาติด ๆ แต่พอเจอขาดทุนครั้งเดียว กำไรทั้งหมดหายวับไปกับตา เปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนก็แล้ว แต่ผลลัพธ์ไม่เปลี่ยนในทางที่ดีสักที
การมองหากลยุทธ์ เพื่อการสร้างผลตอบแทนที่ดีไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่การพึ่งแต่กลยุทธ์อาจจะยังไม่เพียงพอให้การลงทุนนั้นปลอดภัย และประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว เพราะด้วยตลาดมีความเสี่ยง มีผันผวนอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ต้องทำคือการควบคุมความเสี่ยงให้ไม่ให้ขาดทุนมากจนเกินไป
เราเรียกสิ่งนี้ว่า Money Management การบริหารจัดการเงินทุน ซึ่งมีความสำคัญมากกว่ากลยุทธ์ในการลงทุนในสัดส่วน 80:20 เลยทีเดียว เหมือนกับที่รายการ Krungsri The COACH Ep.112: https://bit.ly/47oQCfw ได้บอกเอาไว้
นอกจากนี้ เนื้อหาข้างใน EP ยังจะมีวิธีในการแก้ปัญหาเรื่องการควบคุมความเสี่ยง การจัดสรรเงิน และการรักษาเงินต้นให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ซึ่งทาง FinSpace ก็รู้สึกว่าจะเป็นประโยชน์มาก ๆ ครับ เลยนำมาสรุปให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน เพื่อเอาไปปรับใช้ในการลงทุนกัน
ทำความรู้จัก Money Management คืออะไร ทำไมถึงต้องมี ?
Money Management คือ การบริหารจัดการเงินทุน เป็นเครื่องมือช่วยให้เราบริหารจัดการเงินทุนของเราอย่างเป็นระบบได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี 2 ปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอยู่ตลอด คือ ความเสี่ยงและผลตอบแทน
หากเพื่อน ๆ คนไหนอยากกดเข้าไปดูเนื้อหาเต็ม ๆ สามารถกดเข้าไปดูได้ที่ Krungsri The COACH Ep.112: https://bit.ly/47oQCfw
ยกระดับพอร์ตลงทุนด้วย 3 ทริคง่าย ๆ จาก Money Management
1. ควบคุมความเสี่ยงไม่ให้เกินกว่าที่ยอมรับได้
เช่น อย่าปล่อยให้ขาดทุนถึง 50% เพราะต้องทำกำไรถึง 100% เพื่อกลับมาเท่าทุน แต่ให้กำหนดการขาดทุนไว้ครั้งละ 2% ถ้าลงทุนไป 5 ครั้ง หากขาดทุนไป 10% พอครั้งที่ 6 ได้กำไร 12% ก็ถือว่าได้กำไร
*ความเสี่ยงของแต่ละคนมีไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับจำนวนเงิน และอายุ ต้องรู้จักประเมินตัวเอง
2. การจัดสรรเงินลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์
เงินที่ลงทุนย่อมมีจำกัด ต้องรู้จักหน้าตักตัวเอง และจัดสรรเงินให้พอเหมาะพอดี กับการลงทุนในแต่ละครั้ง
*ข้อห้ามคือ ! อย่ากู้เงินเพื่อมาลงทุนเด็ดขาด เพราะเงินร้อน การตัดสินใจก็จะร้อนตามไปด้วย
3. การวางแผนการเงินที่ดีจะทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น
รู้ความเสี่ยง และผลตอบแทนที่คาดหวังตั้งแต่แรก จะช่วยให้ตัดสินใจได้เด็ดขาดขึ้น พร้อมรักษาเงินต้นให้มีประสิทธิภาพ โดยแบ่งออกเป็น 3 วิธี ได้แก่ 1. รู้จุดเข้าซื้อ 2. รู้จุด Take Profit และ 3 รู้จุด Cut Loss
ยกตัวอย่าง ให้ดูจุดเข้าซื้อ ราคาหุ้นว่าปัจจุบันราคาเท่าไหร่ และ Upside เท่าไหร่ ?
ถ้าหุ้นราคา 100 บาท มี Upside อยู่ 10% เราจะมีจุดทำกำไร Take Profit อยู่ที่ 110 บาท ส่วนจุด Cut Loss ควรอยู่ที่ 95 บาท ถ้าให้เทียบกับผลตอนแทนและความเสี่ยงให้ดูน่าสนใจ
*เคล็ดลับ ให้แบ่งการซื้อ – ขายอย่างน้อย 3 ครั้ง เพื่อต้นทุนเฉลี่ย และราคาเฉลี่ยที่ดีกว่า การซื้อ – ขายในครั้งเดียว
หากเพื่อน ๆ คนไหนอยากกดเข้าไปดูเนื้อหาเต็ม ๆ สามารถกดเข้าไปดูได้ที่ Krungsri The COACH Ep.112: https://bit.ly/47oQCfw
สรุป Money Management
สรุปใจความสำคัญของ Money Management จาก Krungsri The COACH Ep.112 ที่สามารถเอาไปปรับใช้กันครับ
“บริหารความเสี่ยงให้ดี
ปกป้องเงินต้นให้ได้
แล้วกำไรจะมาเอง”
หากเพื่อน ๆ คนไหนอยากกดเข้าไปดูเนื้อหาเต็ม ๆ สามารถกดเข้าไปดูได้ที่ Krungsri The COACH Ep.112: https://bit.ly/47oQCfw
กดติดตาม และดูให้ครบทุกตอน กับรายการ Krungsri The COACH
ถ้าไม่อยากพลาดความรู้เรื่องเงินแบบครบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องออมเงิน กู้เงิน กู้บ้าน รีไฟแนนซ์รถ ลงทุน จัดการบัตรเครดิต รวมถึงวิธีรับมือกับกลโกงมิจฉาชีพในรูปแบบต่างๆ ที่พยายามเข้าหาเราในทุกวิธี โดยโค้ชจะมาแชร์ความรู้ จัดการเรื่องเงินให้ฟังกันแบบเข้าใจง่าย ๆ นำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันของเรา
ต้องกดติดตาม และดูให้ครบทุกตอน กับรายการดี ๆ อย่างรายการ Krungsri The COACH คิดไม่ออก เดี๋ยวตอบให้ ได้ที่ช่องยูทูป KrungsriSimple https://bit.ly/47oQCfw รับรองว่าบริหารจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ เก่งขึ้นแน่นอน !
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb