ถือหุ้นตลอดชีวิตแบบ “Philip Fisher” แนวคิดนี้ยังใช้ได้อยู่ไหม ?
Philip Fisher ชื่อนี้เสมือนยี่ห้อของการลงทุนแบบเน้นการเติบโต เป็นอีกหนึ่งแม่แบบให้ Warren Buffett นอกเหนือจาก Benjamin Graham
สุดยอดนักลงทุนผู้นี้เคยถือหุ้น Motorola มาตั้งแต่ปี 1955 ที่อยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเป็นอีกกลุ่มที่ขึ้นชื่อเรื่องความไม่แน่นอน มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
และที่น่าสนใจยิ่งว่า คือไม่ขายหุ้นนี้เลยแม้จะจากโลกนี้ไปแล้ว ซึ่งหากค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ Philip Fisher จะพบประโยคเด็ดที่ทุกแหล่งต้องเขียนถึง คือ
“ถ้าวิเคราะห์บริษัทอย่างถูกต้องสมบูรณ์แล้ว เวลาที่เหมาะสมในการถือหุ้น คือ ตลอดชีวิต”
แต่…อาจมีคำถามว่าหลักการที่เคยใช้ได้ในอดีตเมื่อกว่า 60 ปีที่แล้ว ยังใช้ได้อยู่หรือไม่ในปัจจุบัน คำตอบน่าจะอยู่ในหลักการที่ Philip Fisher ใช้วิเคราะห์บริษัท ว่าวิเคราะห์อย่างไร และมีปัจจัยใดบ้าง
Motorola หุ้นเติบโตของ Philip Fisher
มองย้อนไปที่หุ้นอย่าง Motorola ก็จะพบอีกด้านหนึ่งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่เป็นจุดเด่นของหุ้นกลุ่มนี้ นั่นคือการเติบโต ซึ่งก็เป็นเครื่องหมายการค้าของ Philip Fisher เช่นเดียวกัน
หลักการแรกที่น่าประทับใจหลังสืบค้นข้อมูล Philip Fisher เน้นว่าราคาหุ้นเติบโตที่จะเข้าไปลงทุนต้องเป็นราคาที่เหมาะสม หมายความว่ามีความเหมาะสมต่ออัตราการเติบโตในอนาคต จึงทำให้ลงทุนใน Motorola ซึ่งมีอัตราส่วน P/E ไม่ถูกไม่แพง ณ ตอนนั้น
แต่ Motorola มีสตอรี่การเติบโตที่ชัดเจนมาก โดยเป็นบริษัทกลุ่มแรกที่ทำให้อุปกรณ์การสื่อสารเป็นสิ่งที่พกพาได้
เป็นผลจากการมีแผนกสื่อสารโดยเฉพาะ และท้ายที่สุดก็กลายเป็นบริษัทโทรคมนาคมขนาดใหญ่ในปัจจุบัน
วิเคราะห์อย่างรู้ลึกและรู้จริง
อีกความน่าสนใจซึ่งมาพร้อมการทำงานหนักของ Philip Fisher คือการให้ความสำคัญกับปัจจัยเชิงคุณภาพที่ไม่ได้ปรากฏผ่านตัวเลขด้วยวิธีการล้วงลึก หรือ Scuttlebutt เช่น การตลาด การขาย การวิจัยและพัฒนา ข้อมูลจากอดีตพนักงาน หรือแม้กระทั่งข้อมูลจากพนักงานบริษัทคู่แข่ง
นั่นทำให้ได้พบทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน ซึ่ง Philip Fisher เชื่อว่าจุดอ่อนเพียงไม่กี่เรื่องก็สร้างความเสียหายต่อการลงทุนได้เลย เรียกได้ว่าหากผ่านขั้นตอนต้องรู้ลึกและรู้จริงในตัวธุรกิจนั้น
หลักการลงทุนหุ้นเติบโต ยังใช้ได้อยู่ไหม
คำถามที่ว่าหลักการของ Philip Fisher ยังใช้ได้อยู่หรือไม่ในปัจจุบัน คงตอบได้ไม่ยากเลยว่า ยังใช้ได้อยู่แน่นอน โลกของเรายังมีการเติบโตอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่อาจเปลี่ยนทิศทางไปเท่านั้น
ในยุคที่การสืบหาข้อมูลง่ายขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของตัวเลขและคุณภาพ ธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี ปรากฏตัวสู่สาธารณชนเรียบร้อยแล้ว แม้บางครั้งราคาอาจปรับตัวขึ้นมาบ้างแล้ว แต่หากมีสตอรี่การเติบโตที่ยังน่าสนใจก็ยังเป็นไปตามหลักการของ Philip Fisher ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของนักลงทุนที่ต้องไปทำการบ้านให้เจอ ต้องรู้ลึกและรู้จริง
นอกจากหลักการสำหรับการค้นหาและลงทุนในหุ้นเติบโตแล้ว Philip Fisher ยังให้อีกบทเรียนที่ไม่เคยบอกกล่าวกับใคร แต่ใช้การกระทำแทนคำพูด ก็คือความอดทน นับตั้งแต่ปี 1955 ใช่ว่าตลาดหุ้นจะวิ่งขึ้นตลอด ตลาดหุ้นต้องผ่านวิกฤติมาแล้วอย่างน้อย 3-4 รอบ หากไม่มีความอดทนโดยเฉพาะความอดทนและแน่วแน่ทางใจ คำว่าขายหุ้นทิ้งต้องวิ่งเข้ามาในหัวในทันที
ไม่ว่าจะศึกษาหลักการลึกซึ้งจนท่องขึ้นใจ อย่างไรก็ตามฝีมือมักมาจากการลงมือทำอันก่อให้เกิดความชำนาญ สร้างประสบการณ์จากความผิดพลาด สอนให้รู้จักกับความอดทน
ฉะนั้นลองดูครับ!!! เริ่มศึกษาเลยนับตั้งแต่วันนี้จากธุรกิจที่เราใช้ผลิตภัณฑ์กันอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ หรือธุรกิจในโลกออนไลน์ ไม่แน่นะ…สักวันเราอาจพบเจอกับธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตซ่อนอยู่ก็เป็นได้ครับ
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
อ่านอะไรต่อดี…