เลือกเปลี่ยนภาษีเป็นเงินเกษียณ กับ RMF กองทุนเด็ด ธีมลงทุนต่างประเทศ จาก บลจ.กรุงศรี
ลดหย่อนภาษีสุดคุ้ม! กองทุนหุ้นเวิร์ลคลาส LHGEQ ที่มีให้เลือกทั้ง SSF และ RMF
ใครที่กำลังมองหา “กองทุนลดหย่อนภาษี” ในช่วงปลายปีนี้ นอกจากจะต้องคำนวณภาษีตัวเองให้ดีๆ แล้ว อีกเรื่องสำคัญก็คือการเลือกกองทุนที่สามารถสร้างผลตอบได้ดีในระยะยาวด้วย
💡 คือ ต้องเติบโตต่อเนื่องอย่างน้อยไปอีก 10 ปีข้างหน้า สำหรับคนที่ลงทุนในกองทุน SSF
💡 หรือโตแบบมั่นคงไปจนกว่าเราจะเกษียณอายุ สำหรับคนที่ลงทุนในกองทุน RMF
แล้ว SSF RMF แบบไหนล่ะที่ตอบโจทย์นี้ได้? วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ LHGEQ กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นเติบโตทั่วโลก ซึ่งมีความโดดเด่นทั้งผลตอบแทน และปรัชญาการลงทุน แถมมีให้เลือกถึง 3 แบบ ได้แก่
1. LHGEQRMF สำหรับสายวางแผนเกษียณ
2. LHGEQ-ASSF ชนิดสะสมมูลค่า เพื่อสะสมเงินออม สร้างเงินก้อน
3. LHGEQ-DSSF ชนิดจ่ายเงินปันผล ตอบโจทย์คนที่ชอบเงินปันผลสม่ำเสมอ
ถ้าใครไม่อยากพลาดโอกาสลงทุนลดหย่อนภาษีสุดคุ้ม ลองมาดูข้อมูลที่ FinSpace รีวิวมาให้แบบครบๆ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม LHGEQRMF และโปรโมชั่นพิเศษ คลิก
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม LHGEQ-ASSF, LHGEQ-DSSF และโปรโมชั่นพิเศษ คลิก
คำเตือน: ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ทำไมต้องลงทุนในหุ้นระดับโลก?
กองทุนลดหย่อนภาษี SSF และ RMF เปิดโอกาสให้ลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะหุ้นไทยเหมือนการซื้อ LTF ในอดีต ทำให้เราสามารถเลือกกองทุนที่ใช่ได้มากขึ้น ซึ่งการลงทุนในหุ้นทั่วโลกถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ดังนี้
1. เศรษฐกิจโลกกลับมาเติบโตได้ดีต่อเนื่อง และเอาชนะเงินเฟ้อได้
ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดย IMF ประเมินว่า World Real GDP จะเติบโตราว 5.9% ในปี 2021
เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะกลับมาได้ค่อนข้างช้า เพราะยังเป็นเศรษฐกิจแบบเก่า (Old Economy) ไม่ค่อยมีบริษัทนวัตกรรมและเทคโนโลยี จึงมีข้อจำกัดเรื่องการเติบโต ทำให้การลงทุนในหุ้นไทยเพียงอย่างเดียว ค่อนข้างจะไม่ตอบโจทย์แล้วกับยุคนี้
2. หุ้นโลก คือ สินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์อื่นๆ ในระยะยาว
เมื่อเทียบผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี พบว่า หุ้นโลก (Global Equity) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าทั้งหุ้นไทย ทองคำ และน้ำมัน ซึ่งอย่างที่บอกว่า SSF RMF เป็นการลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงสามารถคาดหวังผลตอบแทนระดับนี้ได้
ซื้อหุ้นดีทั่วโลกง่ายๆ กับกองทุน LHGEQ
ถ้าจะมองหากองทุนหุ้นโลกที่มีความโดดเด่นมากที่สุดในเวลานี้ แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ กองทุนเปิด แอล เอช โกลบอล อิควิตี้ หรือ LHGEQ เราจึงสรุปรายละเอียดสำคัญมาให้แบบชัดๆ
- ประเภทกองทุน : กองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ (Global Equity) ประเภท Feeder Fund
- นโยบาย : เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ โดยลงทุนในกองทุนหลัก T. Rowe Price Funds SICAV – Global Focused Growth Equity Fund ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
- ดัชนีชี้วัด : ผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก
- การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน : ป้องกันความเสี่ยงตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน
- ค่าธรรมเนียมการซื้อ-ขาย : Front-end Fee 0% และ Back-end Fee 0%
นอกจากนี้ จุดเด่นของ LHGEQ คือมีชนิดหน่วยลงทุนสำหรับลดหย่อนภาษีให้เลือกหลายแบบ ตามเป้าหมายของแต่ละคน ทั้ง SSF ชนิดสะสมมูลค่า SSF ชนิดจ่ายปันผล และ RMF เพื่อการเกษียณ
ลงทุนลดหย่อนภาษี ได้ 3 แบบกับ LHGEQ
เพราะว่า LHGEQ มีการออกกองทุนลดหย่อนภาษีมาให้เลือกถึง 3 แบบ FinSpace จึงเปรียบเทียบมาให้เห็นชัดๆ เลยว่าใครเหมาะกับกองไหน?
1. LHGEQ-ASSF
เหมาะคนที่มีเป้าหมายลงทุนระยะยาว ต้องการเก็บเงินก้อน รับผลตอบแทนแบบทบต้น หรือมีอายุน้อยกว่า 45 ปี
2. LHGEQ-DSSF
เหมาะกับคนที่มีเป้าหมายลงทุนระยะยาวต้องการกระแสเงินทุกปีจากเงินปันผล หรือมีอายุน้อยกว่า 45 ปี
3. LHGEQ-RMF
เหมาะกับคนที่มีเป้าหมายลงทุนเพื่อเกษียณอายุต้องการสร้างวินัยการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ หรืออายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป
บริหารโดยกองทุน T. Rowe Price Funds ด้วยกลยุทธ์ลงทุนระดับโลก
อีกความน่าสนใจที่อยากจะขยายให้เห็นของ LHGEQ ก็คือการลงทุนในกองทุนหลัก T. Rowe Price Funds SICAV – Global Focused Growth Equity Fund ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นต่างประเทศที่ชื่อเสียง และโดดเด่นที่สุดกองหนึ่งของโลก ไม่ว่าจะเป็น…
1. ทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง
บริหารโดย T. Rowe Price Funds ซึ่งมีประสบการณ์กว่า 20 ปี ในการค้นหาหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโต และได้รับการจัดอันดับกองทุนอยู่ในระดับแนวหน้า การันตีด้วย Morning Rating 5 ดาว ของกองทุนประเภท EAA Fund Global Large-Cap Growth Equity
(Source: Morningstar as of Oct 2021)
2. เน้นค้นหาโอกาสในหุ้นที่มีการเติบโตสูงตามเศรษฐกิจโลก
ปรัชญาหลักของกองทุน คือ การเฟ้นหาหุ้นทั่วโลกที่มีโอกาสเติบโตสูง ด้วยการค้นหาบริษัทที่มีความได้เปรียบทางด้านธุรกิจ สอดคล้องกับเทรนด์เศรษฐกิจ ควบคู่กับฐานะการเงินที่ต้องแข็งแกร่งไม่ว่าจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจแบบไหน และให้ความสำคัญกับการประเมินมูลค่าหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตได้อีกมากในอนาคต
3. กระจายการลงทุนทั่วโลก ทั้ง Developed markets และ Emerging Markets
จุดสำคัญที่กองทุนนี้โดดเด่นกว่า Global Equity อื่นๆ นั่นคือการกระจายความเสี่ยงได้ดี ไม่ทุ่มเงินลงทุนไปที่หุ้นตัวใดตัวหนึ่ง แต่คัดหุ้นที่น่าสนใจโดยไม่จำกัดประเทศ หรือกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงมีการลงทุนในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ด้วย
พิสูจน์ผลตอบแทนย้อนหลัง ชนะทั้งตลาด “ขาขึ้น” และ “ขาลง”
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ T. Rowe Price Funds SICAV Global Focused Growth Equity Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลักของ LHGEQ เมื่อเทียบกับ Benchmark แล้ว ถือว่าชนะตลาดได้ในระยะยาว
ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ลงทุนที่เน้นครบจบในกองทุนเดียว ได้ทั้งลดหย่อนภาษี และคาดหวังผลตอบแทนที่โดดเด่นในระยะยาว
Source: T. Rowe Price, as of Aug 2021
ผลการดำเนินงานในอดีต ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ลงทุนในบริษัทระดับโลก เช่น Facebook, Amazon, Alphabet
เจาะลึกเข้าไปดูพอร์ตของกองทุนกันบ้าง จะเห็นว่ามีการลงทุนในบริษัทระดับโลกที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี โดย Top 10 Holding มีหุ้นเวิร์ลคลาส ดังนี้
- Facebook สัดส่วน 4.4%
- Amazon สัดส่วน 4.1%
- UnitedHealth Group สัดส่วน 3.9%
- London Stock Exchange สัดส่วน 3.7%
- Charles Schwab สัดส่วน 3.5%
- Alphabet สัดส่วน 3.4%
- GE สัดส่วน 2.6%
- Airbus สัดส่วน 2.6%
- Recruit Holdings สัดส่วน 2.6%
- T-Mobile US สัดส่วน 2.5%
Source: T. Rowe Price, as of Aug 2021
ลดหย่อนภาษีแบบเวิร์ลคลาส
อ่านมาถึงตรงนี้ ใครที่ไม่อยากพลาดโอกาสลงทุนลดหย่อนภาษีแบบเวิร์ลคลาส กับกองทุนหุ้นระดับโลก
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม LHGEQRMF และโปรโมชั่นพิเศษ คลิก
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม LHGEQ-ASSF, LHGEQ-DSSF และโปรโมชั่นพิเศษ คลิก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ LHFund
โทร 02-286-3484
ติดต่อธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ทุกสาขา หรือผู้สนับสนุนการขายที่ได้รับการแต่งตั้ง
หรือเปิดบัญชีออนไลน์ที่ www.lhfund.co.th
คำเตือน: ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
#บทความนี้เป็นAdvertorial
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
LINE Official : http://bit.ly/2qL8S48
Twitter : http://bit.ly/2keFfVD
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb
กลุ่มความรู้นักลงทุน: http://bit.ly/3clAwZ2
กลุ่มพัฒนาตัวเอง: http://bit.ly/3ejPXnk