เลือกเปลี่ยนภาษีเป็นเงินเกษียณ กับ RMF กองทุนเด็ด ธีมลงทุนต่างประเทศ จาก บลจ.กรุงศรี
คู่มือลงทุน SET50 Futures ตลาดขึ้นก็ใช่ ตลาดลงก็ชอบ
เมื่อตลาดค่อนข้างผันผวนแบบนี้ การลงทุนในอนุพันธ์ หรือ “TFEX” จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถจับจังหวะทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง แถมยังใช้เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงได้ดีอีกด้วย
TFEX (Thailand Futures Exchange) คือ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นสัญญาทางการเงินที่ทำขึ้นเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถใช้ในการซื้อขายสินค้าอ้างอิงในอนาคต โดยปัจจุบันมีสินทรัพย์อ้างอิงหลากหลาย เช่น อัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย ดัชนีราคาหุ้น และราคาทองคำ เป็นต้น แต่ถ้าพูดถึงสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น SET50 FUTURES
SET50 FUTURES คืออะไร?
คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงการเคลื่อนไหวกับดัชนี SET50 พูดง่ายๆ ก็คือมัดรวมหุ้น 50 ตัวที่มีมูลค่าสูงสุดและสภาพคล่องดีมาคำนวณนั่นเอง
การเทรดใน TFEX เลือกได้ทั้ง 2 ฝั่ง คือ 1.) “ขาขึ้น” โดยการเปิดสถานะ Long เมื่อมองว่าดัชนีจะมีการปรับตัวขึ้น และ 2.) “ขาลง” โดยการเปิดสถานะ Short เมื่อมองว่าดัชนีจะมีการปรับตัวลดลง โดยกำไรขาดทุนจะคำนวณจากผลต่างของจำนวนจุดดัชนีระหว่างราคาปัจจุบันกับราคาที่เปิดสถานะไว้ แล้วนำมาคูณด้วยตัวคูณดัชนีซึ่งเท่ากับ 200 บาทต่อจุด
จุดเด่นอีกอย่างของ TFEX นั้น คือ ใช้เงินลงทุนต่ำ เราไม่ต้องวางเงินลงทุนเต็มจำนวน แต่จะวางเพียงเงินหลักประกัน (Margin) ที่ประมาณ 10% ของมูลค่าสินทรัพย์อ้างอิงเท่านั้น
TIPS เทรดอย่างมั่นใจที่มือใหม่ต้องรู้
รู้แล้วว่า TFEX สร้างโอกาสได้ยังไง แต่อีกด้าน TFEX ก็มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ใครคิดจะเริ่มต้น ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ศึกษาข้อมูลให้ดี วันนี้เราจึงมีคู่มือลงทุนมาฝากทั้งนักเทรดมือใหม่และมือเก๋าที่อยากอัพสกิลให้ตัวเอง ซึ่งสรุปมาจากเวิร์กชอปของเพจ Facebook: TFEX Station
สามารถรับชมเนื้อหาย้อนหลังแบบเต็มๆ ได้ที่ https://setga.page.link/fPRAz7zwovGh9G939
2 Step ลงทุน SET50 Futures
Step1: ปรับ Mindset ก่อนเทรด
1.) SET50 Futures คือ เครื่องมือทางการเงินที่ใช้บริหารความเสี่ยง เมื่อทิศทางการลงทุนไม่ชัดเจน เช่น ถือกองทุน SET50 ไปพร้อมกับการ Short สัญญา SET50 Futures อีกทั้งเรายังใช้สินค้าใน TFEX เพิ่มผลตอบแทนเมื่อมั่นใจทิศทางราคา หรือเก็งกำไรส่วนต่างราคาแบบ Spread ได้อีกด้วย
2.) วางแผนการเทรด และทำอย่างมีวินัยอย่างเคร่งครัด หากขาดทุนก็เพียงวางแผนการเทรดรอบใหม่ มองความผิดพลาดที่ผ่านมาเป็นบทเรียน แล้วค่อยๆ สร้างกำไรกลับมาอย่างมั่นคง
3.) อย่าเล่นเกินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ควรบริหารเงินควบคู่ไปกับการเทรดด้วย เริ่มทีละน้อยและใช้กำไรสะสมเพื่อเปิดสัญญาใหม่ เพราะหากจัดการเงินไม่ดี เมื่อเราเทรดผิดทางมากๆ จนเงินหลักประกันต่ำกว่าระดับที่กำหนด เราก็จะถูกบังคับขาย (Force Sell) ซึ่งตามมาด้วยความเสียหายมากมาย
4.) ถ้าผิดทางก็ต้องรู้จักตัดขาดทุน ควรตัดสินใจ Cut Loss ทันที เพื่อจำกัดปริมาณการขาดทุน อย่าถือสัญญาที่ขาดทุนไว้จนทำให้พอร์ตเสียหายมากกว่าที่ควรจะเป็น
5.) เมื่อได้กำไรก็อย่ามั่นใจตัวเองมากเกินไป หลายคนพอเริ่มมีกำไรก็มักจะเปิดสัญญาเพิ่มเพราะคิดว่าเก่งแล้ว เมื่อมั่นใจมากเกินไป การวิเคราะห์ก็น้อยลง สุดท้ายไม้ที่มั่นใจที่สุดอาจเป็นไม้ที่เจ็บหนักที่สุดก็เป็นได้
Step2: รู้พื้นฐานดูกราฟเทคนิค
การฝึกอ่านกราฟ วิเคราะห์เทรนด์การเคลื่อนไหว และใช้เครื่องมือทางการเงิน จะเป็นตัวช่วยเพิ่มโอกาสพิชิตกำไรได้มากขึ้น โดยมี 3 องค์ประกอบหลักที่ทุกคนควรเข้าใจ ได้แก่
– Trend Line คือ การลากเส้นแนวโน้มเพื่อดูว่ากราฟเป็นขาขึ้นหรือขาลงในการจับจังหวะซื้อขาย
– Price Pattern คือ รูปแบบการเคลื่อนตัวของราคาลักษณะต่างๆ ที่เกิดจากพฤติกรรมของนักลงทุนในตลาด
– Indicator คือ เครื่องมือทางการเงินที่ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ซึ่งประมวลผลมาจากสูตรคำนวณทางคณิตศาสตร์
ส่วนใครเป็นมือใหม่ที่อยากติดอาวุธให้ตัวเองเทรดใน TFEX ได้อย่างแม่นยำ ลองมาดู 10 เทคนิคดีๆ ที่เราสรุปมาฝาก
1.) ใช้แท่งเทียนดูแนวโน้มตลาด
หากเป็นมือใหม่ควรทำความเข้าใจความหมายของตัวแท่งเทียนก่อน เพราะการเคลื่อนไหวและสีของแท่งเทียน จะบอกถึงอารมณ์ของตลาดในช่วงนั้นๆ
2.) เลือกช่วงเวลา Time Frame ให้เหมาะสม
Time Frame คือ การแสดงกราฟในรายเวลาต่างๆ เช่น รายนาที รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน โดยเราควรเลือกช่วงเวลาให้เหมาะสม ซึ่งสินค้าในตลาด TFEX มีความรวดเร็ว ก็ควรเลือกใช้ Time Frame ระยะสั้น เช่น ช่วง 5, 15 หรือ 30 นาที
3.) ใช้ Time Frame หาแนวโน้ม
เราสามารถหาความสัมพันธ์ของแนวโน้ม และเป้าหมายที่เกิดขึ้นในแต่ละ Time Frame (สั้น กลาง ยาว) เพื่อมองการเคลื่อนไหวของราคาอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
4.) หาแนวรับ-แนวต้าน ด้วยยอด-ฐาน
ดูยอด-ฐานของช่วงเวลานั้น ๆ เพื่อหาแนวรับ-แนวต้าน ซึ่งถ้าเราหาจุดที่ราคาสูงสุดอย่างน้อย 2 จุด ลากเส้นเชื่อมกันจะได้เส้นแนวต้าน และหาจุดต่ำสุดอย่างน้อย 2 จุด ลากเส้นเชื่อมกันจะได้เส้นแนวรับ แต่ถ้าใช้จุดสูงสุด และจุดต่ำสุดที่ใกล้กับราคาปัจจุบันมากที่สุด ก็จะได้เส้นที่เรียกว่า Trend Line
5.) ลาก Trend Line ดูแนวโน้ม Long / Short
เมื่อหาแนวรับ-แนวต้านได้แล้ว ก็จะสามารถลากเส้นเพื่อดู Trend Line และนำมาวิเคราะห์การเทรดได้ เช่น ถือสถานะ Long หากกราฟอยู่แนวโน้มขาขึ้น หรือถือสถานะ Short หากกราฟอยู่แนวโน้มขาลง
6.) ดูระยะสั้นด้วย Stochastic
Stochastic คือ ดัชนีวัดการแกว่งตัวของราคา เป็น Indicator ที่เหมาะดูแนวโน้มช่วงเวลาระยะสั้นถึงกลาง ทริกในการใช้คือเมื่อใด %K ตัดขึ้นเหนือ %D เป็นจุดซื้อ (Long) และเมื่อใด %K ตัดลงใต้ %D เป็นจุดขาย (Short)
7.) ดูภาพกว้างด้วย RSI
เรามักใช้ RSI เป็น Indicator ในการยืนยันทิศทางของราคา หากภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) เป็นสัญญาณขาย ส่วนภาวะขายมากเกินไป (Oversold) เป็นสัญญาณซื้อ
8.) ใช้ MACD วิเคราะห์ทิศทางราคา
เป็นเครื่องมือแสดงวงจรของราคา สร้างจากความต่างของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ Exponential 2 เส้น วิเคราะห์ประกอบกับเส้น Signal Line ซึ่งหากเส้น Signal Line มีทิศทางตัดขึ้น ให้เปิดสถานะ Long และเปิดสถานะ Short เมื่อเส้น Signal Line มีทิศทางตัดลงมา
9.) ใช้ Fibonacci หาราคาเป้าหมาย
Indicator นี้พิเศษตรงที่เป็นเครื่องมือที่ใช้หาแนวโน้มได้หมดทุกช่วงเวลา (สั้น กลาง ยาว) โดยเป็นการนำผลรวมทางตัวเลขตามหลักคณิตศาสตร์ มาสร้างเป็นสัดส่วนระยะห่างระหว่างเส้นแนวโน้ม เพื่อคำนวณหาแนวต้าน-แนวรับ จาก % ที่กำหนด
10.) ตัดสินใจ Stop Loss ให้เป็น
การเทรดต้องมีจุด Stop Loss เสมอ เพื่อใช้เป็นจุดตัดขาดทุนหรือเป็นจุดปิดสัญญาเพื่อทำกำไร โดยจุด Stop Order มี 2 แบบ คือ Stop Loss เมื่อเส้น Trend Line หลุดจากเส้นแนวโน้ม หรือกำหนดจุดออกเป็น % (Trailing Stop) โดยค่าที่นิยมใช้ เช่น 3%, 5% หรือ 10%
ทั้งหมดเป็นสรุปความรู้การลงทุนใน TFEX บางส่วนที่เรารวบรวมมาฝากทุกคนกัน ลองนำไอเดีย และข้อมูลต่าง ๆ ไปศึกษาเพิ่มเติมแบบเจาะลึกกันดูครับ สุดท้ายนี้ทุกคนยังสามารถติดตามความรู้การลงทุนเกี่ยวกับ TFEX และเข้าร่วม SET50 Futures Workshop 2021 ในหัวข้อ
● Mindset เทรด SET50 Futures ที่มือใหม่ต้องรู้ โดยคุณณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า
● 10 เคล็ดลับ พิชิต SET50 Futures ด้วยกราฟ โดยคุณไอซ์ อุทัยวรรณ ชื่นชม เจ้าของหนังสือ “Trend line ง่ายจัง”
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ Facebook: TFEX Station (https://setga.page.link/fPRAz7zwovGh9G939)